Now in its third iteration, an even more polished Ninja 1000 continues to offer the comfort and convenience to enable sport riding enthusiasts to take their seductively styled machines touring. Complementing the even smoother power delivery and extremely composed handling, the new model features increased touring performance care of improved wind protection, greater comfort and the clean-mount pannier system. All-new Ninja family styling deepens its sporty image. And loaded with the latest electronics technology that Kawasaki has to offer, the new Ninja 1000 is even better equipped to meet a wide range of rider needs.
ตัวรถได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้านหน้ารถปราดเปรียวชวนให้นึกถึงซูเปอร์สปอร์ต Ninja อย่างไม่ต้องสงสัย รูปร่างหน้าตาดุดันขึ้นด้วยชุดไฟหน้า LED
ตัวรถดีไซน์สปอร์ตสะท้อนให้ Ninja 1000 เป็นรถที่มีศักยภาพอันเร้าใจยามขับขี่บนท้องถนน เฟรมอะลูมีเนียมที่มีความแข็งแกร่งสูงของ Ninja 1000 ทำให้จุดศูนย์ถ่วงรถมีความสมดุล มั่นใจในการเข้าโค้งแคบๆ และควบคุมได้โดยไม่เสียอาการ
ตัวรถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างรวดเร็วในขณะที่ตัวรถสามารถขับขี่ได้ทุกสภาพถนน ด้วยสมรรถนะการขับเคลื่อนทั้งทางตรงและในโค้งที่มั่นคง ผู้ขับขี่จึงเพลิดเพลินและสนุกไปกับการขับขี่ได้มากขึ้นและนานขึ้น
เครื่องยนต์สมรรถนะสูงสี่สูบเรียง 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ปริมาตรกระบอกสูบ 1,043 ลบ.ซม. สามารถรีดแรงม้าได้ทุกรอบเครื่องยนต์โดยพละกำลังไม่ตกก่อนจะถึงเรดไลน์ เครื่องยนต์ตัวนี้ให้ทั้งความสนุกตอบสนองเป็นเยี่ยม
กำลังเครื่องยนต์หนักแน่นในย่านความเร็วรอบเครื่องยนต์ปานกลาง เสียงเครื่องยนต์กระหึ่มเร้าใจ การปรับตั้งเครื่องยนต์ใหม่ช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ กำลังเครื่องไม่สะดุด เร่งแรง และช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ เครื่องยนต์ได้รับการปรับตั้งโดยเน้นการให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้ขับขี่ขณะบิดคันเร่ง ผู้ขับขี่จะรับรู้ได้ถึงแรงบิดอันมหาศาลจากการตอบสนองของคันเร่งโดยตรง การปรับตั้งเครื่องยนต์ใหม่นี้ช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบเรียกกำลังเครื่องได้อย่างต่อเนื่องและปล่อยมลภาวะในระดับที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ระบบ KCMF (ฟังก์ชั่นช่วยควบคุมการเข้าโค้งของคาวาซากิ) ชุดควบคุมจัดการเครื่องยนต์และตัวถังโดยรวม
การใช้ซอฟท์แวร์ล้ำสมัยรุ่นล่าสุดของคาวาซากิและข้อมูลป้อนกลับจากชุด IMU (ชุดตรวจวัดแรงเฉื่อย) ของ Bosch ที่ให้ภาพที่แม่นยำชัดเจนกว่าเดิมแบบเรียลไทม์ของความโน้มเอียงของตัวถัง KCMF จะตรวจสอบตัวแปรต่างๆ (พารามิเตอร์) ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์และตัวถังตลอดการเข้าโค้ง – ตั้งแต่เริ่มเข้าโค้ง จนกระทั่งออกจากโค้ง – ระบบนี้ช่วยยับยั้งแรงเบรกและกำลังเครื่องยนต์เพื่อให้การเร่งความเร็ว การเบรก และเร่งอีกครั้งส่งผ่านได้อย่างราบรื่นตลอดกระบวนการ และยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าโค้งได้ตามไลน์ที่ตั้งใจไว้ได้อีกด้วย
ใหม่ KTRC (ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีของคาวาซากิ)
ระบบนี้มีโหมดการทำงานสามโหมดครอบคลุมสภาวะการขับขี่ที่หลากหลาย ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต หรือช่วยให้พารถข้ามผ่านพื้นผิวถนนที่มีสภาพเปียกลื่นได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ ข้อมูลป้อนกลับจาก IMU ยังช่วยควบคุมรถได้อย่างแม่นยำเช่นกัน
ใหม่ KIBS (ระบบป้องกันเบรกล็อคอัจฉริยะของคาวาซากิ)
ระบบจัดการเบรกความแม่นยำสูงระดับซูเปอร์สปอร์ตของคาวาซากิจะช่วยควบคุมรถให้เป็นไปตามแบบฉบับของรถซูเปอร์สปอร์ต มั่นใจได้ถึงเบรกประสิทธิภาพสูงที่มีการแทรกแซงการควบคุมระบบน้อยที่สุดในระหว่างการขับขี่แบบสปอร์ตเต็มพิกัด นอกจากนี้ KIBS ยังช่วยควบคุมการเบรกในโค้ง โดยยับยั้งแรงเบรกเพื่อช่วยรักษาอาการไม่ให้รถยกตัวขึ้นขณะเบรกในทางโค้ง
พาวเวอร์โหมด
ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้งานโหมด Full Power หรือโหมด Low Power เพื่อตั้งค่ากำลังเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ที่ต้องการได้
แผงมาตรวัดดีไซน์ล้ำสมัยประกอบด้วยมาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบอะนาล็อกขนาดใหญ่ขนาบข้างด้วยชุดไฟเตือนต่างๆ และไฟบอกเกียร์
รวมถึงหน้าจอ LCD มัลติฟังก์ชั่นที่ติดตั้งอยู่อีกด้านหนึ่ง ไฟบอกเกียร์ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความแม่นยำในการเปลี่ยนเกียร์ ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นสปอร์ตให้กับ Ninja 1000 ได้อย่างลงตัว ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่ารอบเครื่องยนต์ในการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นได้ระหว่าง 5,000 ถึง 11,000 รอบต่อนาที โดยเพิ่มค่าที่ตั้งได้ทีละ 250 รอบต่อนาที ทั้งนี้ ผู้ขับขี่สามารถปิดฟังก์ชั่นแสดงสถานะรอบเครื่องยนต์ได้ด้วยเช่นกัน นอกจากมาตรวัดความเร็วแสดงผลแบบดิจิตอล และไฟบอกเกียร์ (ฟีเจอร์ใหม่ของรุ่นปี 2017) แล้ว ยังมีฟังก์ชั่นการแสดงผลต่างๆ อีกซึ่งรวมถึง มาตรบันทึกระยะทาง มาตรวัดระยะทางคู่ ระยะทางที่สามารถขับขี่ต่อไปได้ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบันและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย นาฬิกา และตัวแสดงสถานะการขับขี่แบบประหยัด
มิติรถ | |
---|---|
ความยาว | 2,100 mm |
ความกว้าง | 790 mm |
ความสูง | 1,185 mm |
ระยะฐานล้อ | 1,440 mm |
ระยะห่างจากพื้น | 130 mm |
ความสูงเบาะนั่ง | 815 mm |
น้ำหนักรวม | 235 kg |
น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว) | |
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 19 litres |
สมรรถนะ | |
---|---|
กำลังเครื่องยนต์สูงสุด | |
กำลังเครื่องยนต์สูงสุดพร้อมแรมแอร์ | |
แรงบิดสูงสุด |
เครื่องยนต์ | |
---|---|
ประเภทเครื่องยนต์ | Liquid-cooled, 4-stroke, In-Line Four |
ระบบหล่อเย็น | |
ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก | 77 x 56 mm |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,043 cc |
อัตราส่วนกำลังอัด | 11.8:1 |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | Fuel injection: ø38 mm x 4 with oval sub-throttles |
ระบบหล่อลื่น | |
ระบบสตาร์ท | |
ระบบจุดระเบิด | Digital |
ระบบขับเคลื่อน | |
---|---|
ระบบขับเคลื่อน | |
ระบบส่งกำลัง | 6-speed, return shift |
อัตราทดขั้นต้น | |
อัตราทดเกียร์ 1 | |
อัตราทดเกียร์ 2 | |
อัตราทดเกียร์ 3 | |
อัตราทดเกียร์ 4 | |
อัตราทดเกียร์ 5 | |
อัตราทดเกียร์ 6 | |
อัตราทดสุดท้าย | |
ประเภทคลัตช์ (หลัก) |
ตัวถัง | |
---|---|
ประเภทเฟรม | |
ระบบกันสะเทือนหน้า | ø41 mm inverted fork with compression and rebound damping and spring preload adjustability |
ระบบกันสะเทือนหลัง | Horizontal Back-link, gas-charged rear shock with rebound damping and spring preload adjustability |
ระยะยุบล้อหน้า | |
ระยะยุบล้อหลัง | |
มุมแคสเตอร์ | |
ระยะเทรล | |
มุมเลี้ยว (ซ้าย/ขวา) | |
ยางหน้า | 120/70ZR17M/C (58W) |
ยางหลัง | 190/50ZR17M/C (73W) |
เบรกหน้า | Dual semi-floating ø300 mm petal discs |
คาลิปเปอร์ (หน้า) | |
เบรกหลัง | Dual radial-mount, monobloc, opposed 4-piston |
คาลิปเปอร์ (หลัง) |