Ninja ZX-10R

THE CLOSEST THING TO A WORLD SUPERBIKE
CHAMPION MACHINE

Ninja ZX-10R

Ninja ZX-10R ได้แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของรถสายพันธุ์รถแข่งหลังโชว์ผลงานยอดเยี่ยมในการแข่งขัน Superbike World Championship (WSB) โดยรั้งอันดับ 2 ในปี 2012, คว้าแชมป์ในปี 2013 และอันดับ 2 ในปี 2014 และในซีซั่นปัจจุบัน Jonathan Rea นักบิดระดับโลกประจำทีมคาวาซากิก็ยังคงครองแชมป์ไว้ได้ Ninja ZX-10R รุ่นใหม่นี้ถือเป็นการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ระดับซูเปอร์สปอร์ตขั้นสุดยอดที่โรงงานคาวาซากิเคยผลิตมาก็ว่าได้ โดยนำเอาประสบการณ์จริงในสนามแข่งมาทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาสมรรถภาพของ Ninja ZX-10R ให้สมบูรณ์แบบที่สุด สมรรถนะที่เหนือกว่าและการทำความเร็วได้ดีกว่าทำให้ Ninja ZX-10R ยังคงสร้างชื่อให้คาวาซากิในฐานะผู้นำในสังเวียนรถแข่งอย่างต่อเนื่อง








Images not available

Top Features

Top Features

สไตล์เร้าใจ แรงจริง

Ninja ZX- 10R ยังคงรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวที่ได้มาจากรุ่นก่อนไว้เหมือนเดิม แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเห็นได้จากโครงกระจังหน้ารถและจอแสดงการทำงานโฉมใหม่ พร้อมกับส่วนท้ายที่ยาวขึ้น ส่งให้ตัวรถดูปราดเปรียวกะทัดรัดขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความทรงพลัง การตกแต่งคุณภาพสูงทั้งเครื่องยนต์และรูปลักษณ์ภายนอกในทุกรายละเอียด ทำให้ Ninja ZX- 10R ดูสง่างามในทุกมุมมอง ส่วนสีและลวดลายที่ใช้ตกแต่งตัวรถนั้นก็ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดทีมรถแข่งคาวาซากิในสนามแข่ง Superbike World Championship นั่นเอง

ขุมพลังและความเร็วขั้นสุด

Ninja ZX-10R รุ่นที่เผยโฉมในปี 2011 นั้นสร้างความฮือฮาด้วยการผสมผสานขุมพลังที่น่าตื่นใจและระบบการควบคุมทรงประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชั่นพิเศษที่สามารถตัดกลับมาใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงได้โดยการใช้แรงบิดสูงสุดในอัตราความเร็วรอบสูง โดยในรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติพิเศษนี้เหมือนเดิมแต่ที่เหนือกว่าคือสามารถทำงานได้ในอัตราความเร็วรอบที่ต่ำลง ส่งผลให้สามารถเร่งความเร็วเพื่อออกตัวจากโค้งได้ดีขึ้น นอกจากนี้ เครื่องยนต์ยังตอบสนองได้ดีขึ้น และทำความเร็วได้มากกว่าโดยอาศัยประสิทธิภาพของเพลาข้อเหวี่ยงรุ่นใหม่ที่มีแรงเฉื่อยต่ำกว่า ส่งผลดีต่อการเร่งความเร็วและลดความเร็ว ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้งอีกด้วย ด้วยการปรับแต่งจากโรงงานเพื่อการแข่งขันผนวกกับการวิจัยและพัฒนาอันเข้มข้นของคาวาซากิ ทำให้มั่นใจในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ Ninja ZX-10R ซึ่งผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษ ระดับ Euro 4

ระบบกันสะเทือนซูเปอร์ไบค์ระดับโลก

Ninja ZX-10R มาพร้อมตะเกียบหน้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิพัฒนาร่วมกับ Showa ซึ่งผ่านการทดสอบสมรรถภาพมาแล้วจากการแข่งขัน Superbike World Championship โดยช่วยให้ทีมคาวาซากิคว้าแชมป์มาแล้วอย่างงดงาม เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะจากโรงงานผลิตรถแข่งคาวาซากิถูกนำมาใช้ในการผลิตรุ่นที่ใช้ในการขับขี่บนท้องถนนทั่วไปเช่นกัน ระบบการสั่นสะเทือนด้านหน้าได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพด้วยโช้คอัพระบบ Balance Free ส่วนด้านหลังได้โช้คอัพ BFRC lite รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Showa ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าและขนาดเล็กกว่าแบบ Cushion ที่เคยใช้มาก่อน

ระบบเบรก BREMBO สมรรถภาพเยี่ยม

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งในสนามแข่ง Ninja ZX-10R มาพร้อมระบบเบรกหน้าตัวท็อปจาก Brembo ซึ่งคล้ายกับระบบที่ใช้ในรุ่น Ninja H2R การปรับแต่งด้วยเทคโนโลยีพิเศษจากโรงงาน Brembo ทำให้มั่นใจได้ว่าการระบบเบรกจะตอบสนองด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ

ท้าทายทุกขีดจำกัดของการขับขี่ด้วยระบบช่วยเหลือสุดไฮเทค

จุดแข็งของระบบอิเล็กทรอนิกส์ของคาวาซากิคือการตั้งค่ากล่อง ECU ให้แสดงการทำงานของระบบช่วงล่างแบบเรียลไทม์ โปรแกรมอันชาญฉลาดที่ถูกติดตั้งมานี้สามารถตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของยางรถที่เกิดจากตัวแปรต่างๆ และจะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ไปตามสภาพท้องถนนและสภาพของยางได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมชุดควบคุมใหม่ล่าสุดจาก Bosch โดยมี Inertial Measurement Unit (IMU) ซึ่งถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกลไปอีกขั้น โดยเปลี่ยนจากระบบแบบ setting-type และ reaction- type เป็นแบบ feedback-type ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสมองกลคำนวณการควบคุมการทำงานส่วนต่างๆ โดยอัตโนมัติ

ระบบกันสะบัดไฟฟ้า ÖHLINS

ระบบกันสะบัดแบบเดิมนั้นไม่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสภาพการขับขี่หรือความเร็วได้ ในขณะที่ระบบกันสะบัดแบบใหม่จาก ÖHLINS นี้ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งทำงานแปรผันตามความเร็วและอัตราการเร่งความเร็วหรือลดความเร็ว โดยในขณะที่ใช้ความเร็วต่ำ ระบบกันสะบัดจะไม่เข้าไปยุ่งกับระบบบังคับรถ แต่เมื่อแตะความเร็วสูงเมื่อใด ระบบจะทำงานทันทีเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถ

สายพันธุ์รถแข่งตัวจริง

เพราะถูกออกแบบมาเพื่อการแข่งขัน สมรรถนะเครื่องยนต์จึงถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วยอุปกรณ์กล่อง ECU ที่ถูกอัพเกรดขึ้น ซึ่งนอกจากจะจัดการระบบเชื้อเพลิงและจุดระเบิดได้แล้ว ยังสามารถควบคุมระบบสนับสนุนต่างๆ ดังนี้
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี S-KTRC ที่สามารถปรับได้ 5 ระดับ
- ระบบควบคุมรอบทำงานเพื่อป้องกันแรงฉุดจากเครื่องยนต์ (Kawasaki Engine Brake Control) ที่ปรับได้  กับเกียร์ทุกระดับ
- ระบบช่วยการเข้าเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัทช์ (Kawasaki Quick Shifter) เพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ
*หมายเหตุ: การใช้งานระบบการช่วยเหลือเหล่านี้ ต้องติดตั้งชุด Race Kit เสียก่อน

  • สไตล์เร้าใจ แรงจริง

    Ninja ZX- 10R ยังคงรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวที่ได้มาจากรุ่นก่อนไว้เหมือนเดิม แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเห็นได้จากโครงกระจังหน้ารถและจอแสดงการทำงานโฉมใหม่ พร้อมกับส่วนท้ายที่ยาวขึ้น ส่งให้ตัวรถดูปราดเปรียวกะทัดรัดขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความทรงพลัง การตกแต่งคุณภาพสูงทั้งเครื่องยนต์และรูปลักษณ์ภายนอกในทุกรายละเอียด ทำให้ Ninja ZX- 10R ดูสง่างามในทุกมุมมอง ส่วนสีและลวดลายที่ใช้ตกแต่งตัวรถนั้นก็ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดทีมรถแข่งคาวาซากิในสนามแข่ง Superbike World Championship นั่นเอง

  • ขุมพลังและความเร็วขั้นสุด

    Ninja ZX-10R รุ่นที่เผยโฉมในปี 2011 นั้นสร้างความฮือฮาด้วยการผสมผสานขุมพลังที่น่าตื่นใจและระบบการควบคุมทรงประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชั่นพิเศษที่สามารถตัดกลับมาใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงได้โดยการใช้แรงบิดสูงสุดในอัตราความเร็วรอบสูง โดยในรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติพิเศษนี้เหมือนเดิมแต่ที่เหนือกว่าคือสามารถทำงานได้ในอัตราความเร็วรอบที่ต่ำลง ส่งผลให้สามารถเร่งความเร็วเพื่อออกตัวจากโค้งได้ดีขึ้น นอกจากนี้ เครื่องยนต์ยังตอบสนองได้ดีขึ้น และทำความเร็วได้มากกว่าโดยอาศัยประสิทธิภาพของเพลาข้อเหวี่ยงรุ่นใหม่ที่มีแรงเฉื่อยต่ำกว่า ส่งผลดีต่อการเร่งความเร็วและลดความเร็ว ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้งอีกด้วย ด้วยการปรับแต่งจากโรงงานเพื่อการแข่งขันผนวกกับการวิจัยและพัฒนาอันเข้มข้นของคาวาซากิ ทำให้มั่นใจในสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ Ninja ZX-10R ซึ่งผ่านมาตรฐานการปล่อยมลพิษ ระดับ Euro 4

  • ระบบกันสะเทือนซูเปอร์ไบค์ระดับโลก

    Ninja ZX-10R มาพร้อมตะเกียบหน้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่คาวาซากิพัฒนาร่วมกับ Showa ซึ่งผ่านการทดสอบสมรรถภาพมาแล้วจากการแข่งขัน Superbike World Championship โดยช่วยให้ทีมคาวาซากิคว้าแชมป์มาแล้วอย่างงดงาม เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะจากโรงงานผลิตรถแข่งคาวาซากิถูกนำมาใช้ในการผลิตรุ่นที่ใช้ในการขับขี่บนท้องถนนทั่วไปเช่นกัน ระบบการสั่นสะเทือนด้านหน้าได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพด้วยโช้คอัพระบบ Balance Free ส่วนด้านหลังได้โช้คอัพ BFRC lite รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Showa ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าและขนาดเล็กกว่าแบบ Cushion ที่เคยใช้มาก่อน

  • ระบบเบรก BREMBO สมรรถภาพเยี่ยม

    เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งในสนามแข่ง Ninja ZX-10R มาพร้อมระบบเบรกหน้าตัวท็อปจาก Brembo ซึ่งคล้ายกับระบบที่ใช้ในรุ่น Ninja H2R การปรับแต่งด้วยเทคโนโลยีพิเศษจากโรงงาน Brembo ทำให้มั่นใจได้ว่าการระบบเบรกจะตอบสนองด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ

  • ท้าทายทุกขีดจำกัดของการขับขี่ด้วยระบบช่วยเหลือสุดไฮเทค

    จุดแข็งของระบบอิเล็กทรอนิกส์ของคาวาซากิคือการตั้งค่ากล่อง ECU ให้แสดงการทำงานของระบบช่วงล่างแบบเรียลไทม์ โปรแกรมอันชาญฉลาดที่ถูกติดตั้งมานี้สามารถตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของยางรถที่เกิดจากตัวแปรต่างๆ และจะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ไปตามสภาพท้องถนนและสภาพของยางได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมชุดควบคุมใหม่ล่าสุดจาก Bosch โดยมี Inertial Measurement Unit (IMU) ซึ่งถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกลไปอีกขั้น โดยเปลี่ยนจากระบบแบบ setting-type และ reaction- type เป็นแบบ feedback-type ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสมองกลคำนวณการควบคุมการทำงานส่วนต่างๆ โดยอัตโนมัติ

  • ระบบกันสะบัดไฟฟ้า ÖHLINS

    ระบบกันสะบัดแบบเดิมนั้นไม่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสภาพการขับขี่หรือความเร็วได้ ในขณะที่ระบบกันสะบัดแบบใหม่จาก ÖHLINS นี้ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งทำงานแปรผันตามความเร็วและอัตราการเร่งความเร็วหรือลดความเร็ว โดยในขณะที่ใช้ความเร็วต่ำ ระบบกันสะบัดจะไม่เข้าไปยุ่งกับระบบบังคับรถ แต่เมื่อแตะความเร็วสูงเมื่อใด ระบบจะทำงานทันทีเพื่อเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถ

  • สายพันธุ์รถแข่งตัวจริง

    เพราะถูกออกแบบมาเพื่อการแข่งขัน สมรรถนะเครื่องยนต์จึงถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วยอุปกรณ์กล่อง ECU ที่ถูกอัพเกรดขึ้น ซึ่งนอกจากจะจัดการระบบเชื้อเพลิงและจุดระเบิดได้แล้ว ยังสามารถควบคุมระบบสนับสนุนต่างๆ ดังนี้
    - ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี S-KTRC ที่สามารถปรับได้ 5 ระดับ
    - ระบบควบคุมรอบทำงานเพื่อป้องกันแรงฉุดจากเครื่องยนต์ (Kawasaki Engine Brake Control) ที่ปรับได้  กับเกียร์ทุกระดับ
    - ระบบช่วยการเข้าเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัทช์ (Kawasaki Quick Shifter) เพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ
    *หมายเหตุ: การใช้งานระบบการช่วยเหลือเหล่านี้ ต้องติดตั้งชุด Race Kit เสียก่อน

Specifications

Specifications

มิติรถ
ความยาว 2,085 mm
ความกว้าง 740 mm
ความสูง 1,145 mm
ระยะฐานล้อ 1,440 mm
ระยะห่างจากพื้น 145 mm
ความสูงเบาะนั่ง 835 mm
น้ำหนักรวม 206 kg
น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว)
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 17 litres

สมรรถนะ
กำลังเครื่องยนต์สูงสุด
กำลังเครื่องยนต์สูงสุดพร้อมแรมแอร์
แรงบิดสูงสุด

เครื่องยนต์
ประเภทเครื่องยนต์ Liquid-cooled, 4-stroke In-Line Four
ระบบหล่อเย็น
ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก 76 x 55 mm
ปริมาตรกระบอกสูบ 998 cm3
อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง Fuel injection: ø47 mm x 4 with dual injection
ระบบหล่อลื่น
ระบบสตาร์ท
ระบบจุดระเบิด Digital

ระบบขับเคลื่อน
ระบบขับเคลื่อน
ระบบส่งกำลัง 6-speed, return
อัตราทดขั้นต้น
อัตราทดเกียร์ 1
อัตราทดเกียร์ 2
อัตราทดเกียร์ 3
อัตราทดเกียร์ 4
อัตราทดเกียร์ 5
อัตราทดเกียร์ 6
อัตราทดสุดท้าย
ประเภทคลัตช์ (หลัก)

ตัวถัง
ประเภทเฟรม
ระบบกันสะเทือนหน้า ø43 mm inverted Balance Free Front Fork with external compression chamber, KECS-controlled compression and rebound damping, manual spring preload adjustability, and top-out springs
ระบบกันสะเทือนหลัง Horizontal Back-link, BFRC lite gas-charged shock with piggyback reservoir, KECS-controlled compression and rebound damping, manual spring preload adjustability, and top-out spring
ระยะยุบล้อหน้า
ระยะยุบล้อหลัง
มุมแคสเตอร์
ระยะเทรล
มุมเลี้ยว (ซ้าย/ขวา)
ยางหน้า 120/70ZR17M/C (58W)
ยางหลัง 190/55ZR17M/C (75W)
เบรกหน้า Dual semi-floating ø330 mm Brembo discs. Dual radial-mount, Brembo M50 monobloc, opposed 4-piston
คาลิปเปอร์ (หน้า)
เบรกหลัง Single ø220 mm disc, Single-bore pin-slide
คาลิปเปอร์ (หลัง)

รุ่นอื่นๆ ที่คุณอาจชื่นชอบ

รุ่นอื่นๆ ที่คุณอาจชื่นชอบ