มาพร้อมความสะดวกสบายและอเนกประสงค์ที่สูงขึ้นกว่าเดิม คาวาซากิภูมิใจนำเสนอโมเดลใหม่ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อส่งมอบความเพลิดเพลินสูงสุดในทุกสภาวะการขับขี่เช่นเดียวกับที่ Versys 1000 ปี 2015-2018 รุ่นก่อนหน้านี้เคยทำมา ไม่ว่าจะขับขี่คนเดียวหรือซ้อนสอง ใช้งานในระยะทางใกล้หรือเดินทางไปรอบโลก ส่วนผสมระหว่างเครื่องยนต์สี่สูบเรียงที่ถูกปรับให้ตอบรับได้ฉับไวและทรงพลังมากยิ่งขึ้นแซสซีที่ออกแบบมาให้มีความคล่องตัวสูงพร้อมระบบกันสะเทือนประสิทธิภาพเยี่ยมก็สามารถทำให้คุณยิ้มจนแก้มปริได้ด้วยสมรรถนะแบบสปอร์ตที่ขี่สนุกในทุกเส้นทาง ตำแหน่งท่านั่งแบบหลังตรงที่ช่วยให้ทุกการขับขี่รู้สึกไม่เกร็งและควบคุมได้ตามสั่ง เสริมด้วยเบาะที่ออกแบบมาให้มีความสบายสูงสุดกับศักยภาพในการปกป้องตัวผู้ขับขี่จากกระแสลมที่ดี ทำให้การใช้งานในระยะทางไกลเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย
กุญแจสำคัญที่ทำให้ Versys 1000 ขี่สนุกคือขุมพลังที่ส่งมอบความตื่นเต้นในการใช้งานได้เกินกว่าตัวเลขที่สเปกระบุไว้ เครื่องยนต์สี่สูบเรียงปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,043 ลบ.ซม. ถูกปรับตั้งใหม่โดยคำนึงถึงความยืดหยุ่นในการใช้งาน ควบคุมง่ายด้วยคันเร่งที่ให้การตอบสนองยอดเยี่ยม, แรงบิดอันทรงพลังในทุกรอบความเร็ว (โดยเฉพาะในรอบต่ำถึงกลาง) และเสียงดูดอากาศอันเร้าอารมณ์ – เพื่อให้ผู้ใช้สัมผัสถึงความสนุก ตื่นเต้น ทั้งจากสมรรถนะและเสียงในทุกองศาของการเปิดคันเร่ง การเปลี่ยนไปใช้ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าในปี 2019 ทำให้สามารถเพิ่มระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเข้ามาอำนวยความสะดวกต่อการใช้งานในระยะทางไกล ขณะที่ควบคุมให้การส่งกำลังนั้นมีความต่อเนื่อง นุ่มนวล ไร้การสะดุด เต็มอารมณ์สปอร์ต
ระบบลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าช่วยให้กล่อง ECU สามารถควบคุมทั้งปริมาณของน้ำมัน (ผ่านหัวฉีดจ่ายน้ำมัน) และอากาศ (ผ่านลิ้นปีกผีเสื้อ) เข้าสู่เครื่องยนต์อย่างแม่นยำ ทำให้ได้ปริมาณของน้ำมันและตำแหน่งของลิ้นปีกผีเสื้อที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้เครื่องยนต์นั้นตอบสนองได้อย่างนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ ไร้การสะดุดและให้กำลังตามที่ต้องการ
เทคโนโลยีของระบบคลัตช์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสนามแข่งช่วยจำกัดแรงฉุดจากล้อหลังเพื่อป้องกันไม่ให้ล้อหลังสับหรือล็อคเมื่อลดเกียร์เช่นเดียวกับช่วยให้ก้านคลัตช์มีน้ำหนักเบาใช้งานง่าย
ใช้พื้นฐานเดียวกับระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติ Semi-active ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Ninja ZX-10R SE รุ่นปี 2018 ระบบ KECS ถูกออกแบบมาเพื่อปรับความหนืดของโช้คให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่และสภาพถนนมากที่สุด ผสมผสานระหว่างองค์ประกอบทางกลไกระดับสูงและเทคโนโลยีควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์รุ่นล่าสุด KECSส่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวลควบคุมง่ายในทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกับการปรับระบบกันสะเทือนให้แข็งขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ด้วยความเร็วในสไตล์สปอร์ต เสริมสมรรถนะในการยึดเกาะของยางให้มีความมั่นคงและขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกการเข้าโค้ง
ในรุ่น Versys 1000 SE ระบบ KECS ยังมาพร้อมตัวปรับระยะยุบของโช้คหลัง (Preload) ไฟฟ้า– ครั้งแรกของคาวาซากิ ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับระยะยุบของสปริงได้ผ่านโหมดที่มีการเซ็ตมาจากโรงงาน (แต่ละโหมดจะทำการปรับ preload +5/-5):
- ขี่คนเดียว Rider only
- ขี่คนเดียวมีสัมภาระ Rider with luggage
- ซ้อนสองและมีสัมภาระ Rider with passenger and luggage
ระบบไฟซึ่งติดตั้งอยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่งของแฟริ่งสามารถปรับลำดับการส่องสว่างให้เหมาะสมต่อการเข้าโค้งในเวลากลางคืน แต่ละด้านประกอบด้วยไฟสามดวงที่ส่องไปในทิศทางเดียวกันและทำงานตามองศาของรถ เมื่อรถเข้าโค้งหลอดไฟจะติดขึ้นทีละดวงไล่ตามลำดับขององศาการเอียง ช่วยเพิ่มขอบข่ายการส่องสว่างให้กว้างขึ้นในทิศทางที่รถมุ่งไปให้ทัศนวิสัยในโค้งที่ชัดเจนในการขับขี่
จุดแข็งของระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำหน้าของคาวาซากิคือโปรแกรมอันชาญฉลาดที่มีความซับซ้อน โดยเลือกใช้ฮารด์แวร์น้อยที่สุด ช่วยให้กล่อง ECU สามารถประมวนผลและเห็นภาพว่าแซสซีกำลังทำอะไรอยู่แบบ real-time โปรแกรมไดนามิคโมเดลลิ่งของคาวาซากิยังมีการนำ Magic Formula tyre model มาใช้วิเคราะห์ตัวแปรหลายประการที่มีผลต่อการตอบสนองของยาง ทำให้ตัวระบบทราบข้อมูลของสภาพถนนและสภาวะของยางในสถานการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกันออกไป
ใช้นวัตกรรมด้านซอฟท์แวร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากคาวาซากิและข้อมูลจากชุดเซ็นเซอร์ IMU (Inertial Measurement Unit) ที่มีความกะทัดรัดจาก Bosch ระบบ KCMF จะทำการวัดขอบข่ายการตอบสนองของทั้งเครื่องยนต์และแซสซีตลอดทั้งโค้ง - ตั้งแต่จุดเข้า,ผ่านจุด Apex, ไปยังจุดออกโค้ง - ควบคุมแรงดันเบรกและกำลังของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมเพื่อให้เกิดการเคลื่อนตัวที่นิ่มนวลไร้การสะดุดตั้งแต่จังหวะเร่งความเร็วไปจนถึงจังหวะใช้เบรกและกลับมาเดินคันเร่งอีกครั้ง เพื่อช่วยผู้ขับขี่ให้สามารถรักษาไลน์การขับขี่ได้อย่างแม่นยำตลอดทั้งโค้ง
NEW * สำหรับ Versys 1000 ระบบ KCMF ใช้ข้อมูลจากชุดเซ็นเซอร์ IMU เพื่อควบคุมและทำงานร่วมกับระบบต่อไปนี้:
- KECS
- KIBS (KIBS (นอกจากป้องกันล้อล็อกแล้วยังควบคุมไม่ให้หน้ารถมีอาการปักขณะใช้เบรกหน้าและควบคุมแรงดันเบรกขณะเข้าโค้ง) * มีเฉพาะในรุ่น SE
ติดตั้งมาให้สอดคล้องกับคาแรคเตอร์การส่งกำลังที่มีความสนุก ตื่นเต้น ของ Versys 1000 ควิกชิพเตอร์ช่วยให้ผู้ขับขี่ชิพและเชนจ์เกียร์ลงได้โดยไม่ต้องกำคลัตช์ ทำให้การเร่งความเร็วและลดความเร็วสามารถทำได้ต่อเนื่อง ฉับไวและสะดวกสบาย
ระบบ Traction control ทั้งสามโหมดถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมสภาวะการใช้งานกว้างมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสมรรถนะเมื่อต้องการขับขี่แบบสปอร์ตหรือเพิ่มความปลอดภัยในสภาพทางที่พื้นผิวลื่นให้ผู้ใช้สามารถขับขี่ได้มั่นใจ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Electronic Cruise Control) จากคาวาซากิทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและรักษาระดับความเร็วของรถได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม เมื่อระบบทำงานผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องคอยคุมระดับในการใช้คันเร่ง ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าของมือขวาเมื่อขับขี่ท่องเที่ยวเป็นระยะทางไกลก่อให้เกิดความรีแล็กซ์ในทุกเส้นทางและมอบความสบายเหนือระดับ
ติดตั้งมาให้บริเวณหลังชิลหน้าเพื่อความสะดวกและง่ายต่อการเข้าถึง ช่องจ่ายไฟ DC ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นอุปกรณ์เสริมกลายมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มากับตัวรถและจ่ายกระแสไฟ 40 วัตต์ในการใช้งาน
เรือนไมล์ใหม่สุดไฮเทคที่เนรมิตให้มิติเบื้องหลังแฮนด์ของ Versys 1000 ดูหรูหราเหนือระดับ
มาตรวัดรอบ อนาล็อคจับคู่กับจอ LCD (ในรุ่นสแตนดาร์ด) หรือจอสี TFT LCD เกรดสูงในรุ่น SE
กุญแจสำคัญที่ทำให้ Versys 1000 ขี่สนุกคือขุมพลังที่ส่งมอบความตื่นเต้นในการใช้งานได้เกินกว่าตัวเลขที่สเปกระบุไว้ เครื่องยนต์สี่สูบเรียงปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,043 ลบ.ซม. ถูกปรับตั้งใหม่โดยคำนึงถึงความยืดหยุ่นในการใช้งาน ควบคุมง่ายด้วยคันเร่งที่ให้การตอบสนองยอดเยี่ยม, แรงบิดอันทรงพลังในทุกรอบความเร็ว (โดยเฉพาะในรอบต่ำถึงกลาง) และเสียงดูดอากาศอันเร้าอารมณ์ – เพื่อให้ผู้ใช้สัมผัสถึงความสนุก ตื่นเต้น ทั้งจากสมรรถนะและเสียงในทุกองศาของการเปิดคันเร่ง การเปลี่ยนไปใช้ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าในปี 2019 ทำให้สามารถเพิ่มระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเข้ามาอำนวยความสะดวกต่อการใช้งานในระยะทางไกล ขณะที่ควบคุมให้การส่งกำลังนั้นมีความต่อเนื่อง นุ่มนวล ไร้การสะดุด เต็มอารมณ์สปอร์ต
ระบบลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าช่วยให้กล่อง ECU สามารถควบคุมทั้งปริมาณของน้ำมัน (ผ่านหัวฉีดจ่ายน้ำมัน) และอากาศ (ผ่านลิ้นปีกผีเสื้อ) เข้าสู่เครื่องยนต์อย่างแม่นยำ ทำให้ได้ปริมาณของน้ำมันและตำแหน่งของลิ้นปีกผีเสื้อที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้เครื่องยนต์นั้นตอบสนองได้อย่างนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ ไร้การสะดุดและให้กำลังตามที่ต้องการ
เทคโนโลยีของระบบคลัตช์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสนามแข่งช่วยจำกัดแรงฉุดจากล้อหลังเพื่อป้องกันไม่ให้ล้อหลังสับหรือล็อคเมื่อลดเกียร์เช่นเดียวกับช่วยให้ก้านคลัตช์มีน้ำหนักเบาใช้งานง่าย
ใช้พื้นฐานเดียวกับระบบกันสะเทือนปรับอัตโนมัติ Semi-active ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Ninja ZX-10R SE รุ่นปี 2018 ระบบ KECS ถูกออกแบบมาเพื่อปรับความหนืดของโช้คให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่และสภาพถนนมากที่สุด ผสมผสานระหว่างองค์ประกอบทางกลไกระดับสูงและเทคโนโลยีควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์รุ่นล่าสุด KECSส่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวลควบคุมง่ายในทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกับการปรับระบบกันสะเทือนให้แข็งขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ด้วยความเร็วในสไตล์สปอร์ต เสริมสมรรถนะในการยึดเกาะของยางให้มีความมั่นคงและขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกการเข้าโค้ง
ในรุ่น Versys 1000 SE ระบบ KECS ยังมาพร้อมตัวปรับระยะยุบของโช้คหลัง (Preload) ไฟฟ้า– ครั้งแรกของคาวาซากิ ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับระยะยุบของสปริงได้ผ่านโหมดที่มีการเซ็ตมาจากโรงงาน (แต่ละโหมดจะทำการปรับ preload +5/-5):
- ขี่คนเดียว Rider only
- ขี่คนเดียวมีสัมภาระ Rider with luggage
- ซ้อนสองและมีสัมภาระ Rider with passenger and luggage
ระบบไฟซึ่งติดตั้งอยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่งของแฟริ่งสามารถปรับลำดับการส่องสว่างให้เหมาะสมต่อการเข้าโค้งในเวลากลางคืน แต่ละด้านประกอบด้วยไฟสามดวงที่ส่องไปในทิศทางเดียวกันและทำงานตามองศาของรถ เมื่อรถเข้าโค้งหลอดไฟจะติดขึ้นทีละดวงไล่ตามลำดับขององศาการเอียง ช่วยเพิ่มขอบข่ายการส่องสว่างให้กว้างขึ้นในทิศทางที่รถมุ่งไปให้ทัศนวิสัยในโค้งที่ชัดเจนในการขับขี่
จุดแข็งของระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำหน้าของคาวาซากิคือโปรแกรมอันชาญฉลาดที่มีความซับซ้อน โดยเลือกใช้ฮารด์แวร์น้อยที่สุด ช่วยให้กล่อง ECU สามารถประมวนผลและเห็นภาพว่าแซสซีกำลังทำอะไรอยู่แบบ real-time โปรแกรมไดนามิคโมเดลลิ่งของคาวาซากิยังมีการนำ Magic Formula tyre model มาใช้วิเคราะห์ตัวแปรหลายประการที่มีผลต่อการตอบสนองของยาง ทำให้ตัวระบบทราบข้อมูลของสภาพถนนและสภาวะของยางในสถานการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกันออกไป
ใช้นวัตกรรมด้านซอฟท์แวร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากคาวาซากิและข้อมูลจากชุดเซ็นเซอร์ IMU (Inertial Measurement Unit) ที่มีความกะทัดรัดจาก Bosch ระบบ KCMF จะทำการวัดขอบข่ายการตอบสนองของทั้งเครื่องยนต์และแซสซีตลอดทั้งโค้ง - ตั้งแต่จุดเข้า,ผ่านจุด Apex, ไปยังจุดออกโค้ง - ควบคุมแรงดันเบรกและกำลังของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมเพื่อให้เกิดการเคลื่อนตัวที่นิ่มนวลไร้การสะดุดตั้งแต่จังหวะเร่งความเร็วไปจนถึงจังหวะใช้เบรกและกลับมาเดินคันเร่งอีกครั้ง เพื่อช่วยผู้ขับขี่ให้สามารถรักษาไลน์การขับขี่ได้อย่างแม่นยำตลอดทั้งโค้ง
NEW * สำหรับ Versys 1000 ระบบ KCMF ใช้ข้อมูลจากชุดเซ็นเซอร์ IMU เพื่อควบคุมและทำงานร่วมกับระบบต่อไปนี้:
- KECS
- KIBS (KIBS (นอกจากป้องกันล้อล็อกแล้วยังควบคุมไม่ให้หน้ารถมีอาการปักขณะใช้เบรกหน้าและควบคุมแรงดันเบรกขณะเข้าโค้ง) * มีเฉพาะในรุ่น SE
ติดตั้งมาให้สอดคล้องกับคาแรคเตอร์การส่งกำลังที่มีความสนุก ตื่นเต้น ของ Versys 1000 ควิกชิพเตอร์ช่วยให้ผู้ขับขี่ชิพและเชนจ์เกียร์ลงได้โดยไม่ต้องกำคลัตช์ ทำให้การเร่งความเร็วและลดความเร็วสามารถทำได้ต่อเนื่อง ฉับไวและสะดวกสบาย
ระบบ Traction control ทั้งสามโหมดถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมสภาวะการใช้งานกว้างมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสมรรถนะเมื่อต้องการขับขี่แบบสปอร์ตหรือเพิ่มความปลอดภัยในสภาพทางที่พื้นผิวลื่นให้ผู้ใช้สามารถขับขี่ได้มั่นใจ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Electronic Cruise Control) จากคาวาซากิทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและรักษาระดับความเร็วของรถได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม เมื่อระบบทำงานผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องคอยคุมระดับในการใช้คันเร่ง ซึ่งช่วยลดความเมื่อยล้าของมือขวาเมื่อขับขี่ท่องเที่ยวเป็นระยะทางไกลก่อให้เกิดความรีแล็กซ์ในทุกเส้นทางและมอบความสบายเหนือระดับ
ติดตั้งมาให้บริเวณหลังชิลหน้าเพื่อความสะดวกและง่ายต่อการเข้าถึง ช่องจ่ายไฟ DC ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นอุปกรณ์เสริมกลายมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มากับตัวรถและจ่ายกระแสไฟ 40 วัตต์ในการใช้งาน
เรือนไมล์ใหม่สุดไฮเทคที่เนรมิตให้มิติเบื้องหลังแฮนด์ของ Versys 1000 ดูหรูหราเหนือระดับ
มาตรวัดรอบ อนาล็อคจับคู่กับจอ LCD (ในรุ่นสแตนดาร์ด) หรือจอสี TFT LCD เกรดสูงในรุ่น SE
| มิติรถ | |
|---|---|
| ความยาว | 2,270 mm |
| ความกว้าง | 950 mm |
| ความสูง | High position 1,530 mm / Low position 1,490 mm |
| ระยะฐานล้อ | 1,520 mm |
| ระยะห่างจากพื้น | 150 mm |
| ความสูงเบาะนั่ง | 820 mm |
| น้ำหนักรวม | 257 kg |
| น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว) | - |
| ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 21 litres |
| สมรรถนะ | |
|---|---|
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุด | 88.2 kW {120 PS} / 9,000 min-1 |
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุดพร้อมแรมแอร์ | - |
| แรงบิดสูงสุด | 102.0 N·m {10.4 kgƒ·m} / 7,500 min-1 |
| เครื่องยนต์ | |
|---|---|
| ประเภทเครื่องยนต์ | 4-stroke, In-Line Four |
| ระบบหล่อเย็น | Liquid-cooled |
| ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก | 77.0 x 56.0 mm |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,043 cc |
| อัตราส่วนกำลังอัด | 10.3:1 |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | Fuel injection: Ø38 mm x 4 |
| ระบบหล่อลื่น | Forced lubrication, wet sump |
| ระบบสตาร์ท | Electric |
| ระบบจุดระเบิด | Digital |
| ระบบขับเคลื่อน | |
|---|---|
| ระบบขับเคลื่อน | Chain |
| ระบบส่งกำลัง | 6-speed, return |
| อัตราทดขั้นต้น | 1.627 (83/51) |
| อัตราทดเกียร์ 1 | 2.692 (35/13) |
| อัตราทดเกียร์ 2 | 1.950 (39/20) |
| อัตราทดเกียร์ 3 | 1.529 (26/17) |
| อัตราทดเกียร์ 4 | 1.304 (30/23) |
| อัตราทดเกียร์ 5 | 1.136 (25/22) |
| อัตราทดเกียร์ 6 | 0.958 (23/24) |
| อัตราทดสุดท้าย | 2.867 (43/15) |
| ประเภทคลัตช์ (หลัก) | Wet multi-disc, manual |
| ตัวถัง | |
|---|---|
| ประเภทเฟรม | Twin tube, aluminium |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | Ø43 mm inverted fork with KECS-controlled compression and rebound damping, manual spring preload adjustability, and top-out springs. |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | Horizontal Back-link, BFRC lite gas-charged shock with piggyback reservoir, KECS-controlled compression and rebound damping and electronic spring preload adjustability. |
| ระยะยุบล้อหน้า | 150 mm |
| ระยะยุบล้อหลัง | 152 mm |
| มุมแคสเตอร์ | 27.0º |
| ระยะเทรล | 106 mm |
| มุมเลี้ยว (ซ้าย/ขวา) | 34º / 34º |
| ยางหน้า | 120/70ZR17M/C (58W) |
| ยางหลัง | 180/55ZR17M/C (73W) |
| เบรกหน้า | Dual semi-floating Ø310 mm petal discs |
| คาลิปเปอร์ (หน้า) | Dual radial-mount, monobloc, opposed 4-piston |
| เบรกหลัง | Single Ø250 mm petal disc. |
| คาลิปเปอร์ (หลัง) | Single-piston |
