โดดเด่น หรูหรา และล้ำสมัย

รูปโฉมตัวรถถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของรุ่นนินจาโดยไม่ได้คำนึงถึงขนาด cc Ninja 250 ใหม่ มีความพิเศษอย่างเหลือเชื่อ ได้แรงบันดาลใจจาก Ninja H2 และการมี bodywork ขนาดใหญ่ทำให้สามารถสะกดสายตาผู้ต้องมองและให้ความรู้สึกของรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ความประทับใจนี้ได้รับสนับสนุนด้วยการออกแบบที่ยอดเยี่ยมและความเรียบร้อยในการประกอบ เปรียบได้กับรถบิ๊กไบค์ cc สูง ๆ เลยทีเดียว

โคมไฟ LED ที่ได้สัดส่วน (ด้านหนึ่งไฟต่ำ ด้านหนึ่งไฟสูง) สามารถมองเห็นได้ชัดเจนและเพิ่มความสว่างได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ Ninja 250 ให้มีหน้าตาที่คมชัดยิ่งเพิ่มมากขึ้น

ประสิทธิภาพสูงและการควบคุมที่เป็นเยี่ยม

เครื่องยนต์ของ Ninja 250 เป็นเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด ความจุกระบอกสูบ 249 cm3 ที่ให้ความสมดุลระหว่างประสิทธภาพและการควบคุม เครื่องยนต์ใหม่นี้ได้เพิ่มประสิทธิภาพในทุกรอบความเร็วเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์รุ่นก่อนๆ มีความรู้สึกถึงพละกำลังที่ดี ราบรื่น สามารถตอบสนองได้อย่างใจซึ่งมาจากลักษณะของเครื่องยนต์ที่ง่ายต่อการควบคุม ต้องขอขอบคุณการออกแบบที่ทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูง มีความลงตัว และน้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน

ตัวช่วยเหลือในการขับขี่ใหม่และสลิปเปอร์คลัทช์

คลัทช์มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น (ø139 mm >> ø125 mm) พร้อมลดความแข็งของ operating plates ทำให้กำคลัทช์ได้ง่ายขึ้น 20% คลัทช์รุ่นใหม่นี้ให้ความรู้สึกที่เบาในการกำคลัทช์อย่างมาก ซึ่งช่วยให้การขับขี่ได้ง่ายขึ้น

น้ำหนักเบา คงทน และคล่องแคล่ว

Ninja 250 มีลักษณะโครงรถคล้ายกันกับการออกแบบโครงรถสำหรับ Ninja H2 การวิเคราะห์ความแข็งแบบไดนามิกขั้นสูงของคาวาซากิถูกนำมาใช้เพื่อให้มั่นใจว่ามีความแข็งแรงที่เหมาะสมและน้ำหนักเบา สามารถรองรับกำลังเครื่องยนต์สรรถนะสูงได้ การออกแบบโครงรถใหม่มีส่วนสำคัญต่อมวลรวมที่ลดลงของรถจักรยานยนต์คันนี้

โช๊คอัพหน้าแข็งแกร่ง

โช๊คอัพแบบ Telescopic มีความยืดหยุ่นสูง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 41 มม. สามารถรองรับการสั่นสะเทือนได้ดีกว่า ให้ความรู้สึกการยึดเกาะที่ล้อหน้าที่ดี การเปลี่ยนแปลงทิศทางทำได้ง่าย การเข้าโค้งทำได้เยี่ยม ควบคุมได้อย่างดีแม้การจราจรที่ติดขัด และการรองรับการสั่นสะเทือนโดยรวมสามารถทำได้ดีเยี่ยมถึงแม้รถจะมี cc สูง

แผงหน้าปัดเทคโนโลยีชั้นเยี่ยม

Ninja 250 มีแผงหน้าปัดเหมือนกันกับ Ninja 650 ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่เป็นเหมือนห้องขับยวดยานพาหนะชั้นยอด การออกแบบแผงหน้าปัดที่มีความซับซ้อนมีเครื่องวัดความเร็วแบบอะนาล็อกขนาดใหญ่พร้อมด้วยโคมไฟเตือนด้านหนึ่ง บอกตำแหน่งเกียร์และหน้าจอ LCD แบบมัลติฟังก์ชั่นในอีกด้านหนึ่ง