MEGURO K3 โมเดลในความทรงจำของคาวาซากิที่ได้ร้อยเรียงประวัติศาสตร์สปอร์ตไบค์ขนาดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น เครื่องยนต์ที่สวยงามและรูปทรงอันพลิ้วไหวของตัวถัง รวมถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่ลงตัว ไม่ว่าจะล้อ หรือเบาะที่นั่งนั้น เป็นความภาคภูมิใจของคาวาซากิ ที่ได้รับช่วงต่อประวัติศาสตร์ของ “เมะกุโระ” ผู้ผลิตสปอร์ตไบค์รายแรกของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะไม่ทำให้ความดั้งเดิมนั้นขาดช่วงไป
Product Page Line up: https://www.global-kawasaki-motors.com/w_meguro/en/
ด้วยความใส่ใจในการสร้างรูปทรงแบบคลาสสิคไปพร้อมกับการนำเทคนิคสมัยใหม่มาใช้กับหลายๆจุด เช่น การทำสีและปรับสภาพพื้นผิว ทำให้ตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของรถปรากฏขึ้นมา นอกจากนี้ดีไซน์ของ MEGURO K3 ยังคำนึงถึงมุมมองของไบค์เกอร์ จึงได้มีการออกแบบให้ผู้ขับขี่รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ขับขี่แบรนด์เมะกุโระอีกด้วย เมื่อกำแฮนด์แล้วลดสายตาลงมองก็จะเห็นโลโก้ “เมะกุโระ” สีสันสดใสบนหน้าปัดเรือนไมล์ และถังน้ำมันที่ทำสีแบบ Spray chroming ทำให้เกิดภาพสะท้อนของท้องฟ้าบนตัวถังอีกด้วย
ที่ด้านข้างของถังน้ำมันจะมีป้าย Original emblem ที่ถูกทำขึ้นมาอย่างใส่ใจติดอยู่ โดยมีต้นแบบมาจาก Meguro works โดยป้าย Emblem นี้ทำจากอลูมิเนียมขึ้นรูปให้มีความนูน จากนั้นช่างฝีมีอที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานจะเป็นผู้ลงสีทั้งหมด 5สีทีละอัน ๆ ถือเป็นการใช้วีธีลงสีที่มีขั้นตอนเยอะมาก แต่นั่นก็เพราะเราให้ความสำคัญกับงานที่มีคุณลักษณะละเอียดอ่อน รวมถึงความรู้สึกแบบเรโทรให้เหมือนกับสมัยของ Meguro Manufacturing
สำหรับเบาะที่นั่งนั้น ได้เลิกใช้เบาะ Tuck Roll ที่เคยใช้ในรุ่น W800 จากนั้นทำขอบ Piping รอบ ๆ เพื่อทำให้เป็นสไตล์คลาสสิคยิ่งขึ้น และเนื่องจากวัสดุที่ใช้ทำเบาะให้ผิวสัมผัสเรียบลื่นจึงทำให้นั่งสบาย นอกจากนี้ ยังได้พิมพ์โลโก้ “Kawasaki” สีเงินไว้ที่ท้ายเบาะอีกด้วย
เครื่องยนต์ที่มีความสวยงาม และมีความเฉพาะตัวด้วยกลุ่มเฟืองดอกจอกนั้นเป็นเครื่องยนต์ Air cooled 4 stroke SOHC 4 valve vertical twin ด้วยความพิเศษของเครื่องยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ซึ่งให้ความสำคัญกับช่วงความเร็วการหมุนระดับต่ำไปถึงกลาง จึงทำให้ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินไปกับตัวรถที่วิ่งได้อย่างดีและมีสมดุล
ด้วยการใช้ Double cradle frame ที่มี Backbone หน้าตัดทรงเหลี่ยมขนาด 50 มม. ซึ่งมีความทนทานนั้นทำให้เราสามารถออกแบบตัวรถที่กระทัดรัดขึ้นมาได้ ส่วนท่อทรงกลมที่เป็นส่วนประกอบนั้น ได้มีการวิเคราะห์ความคงทนที่จำเป็นในแต่ละจุด จากนั้นจึงปรับสมดุลความคงทนดังกล่าวให้เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ยังพยายามควบคุมให้มีจุดเชื่อม และแผ่นโลหะเสริมแรงบริเวณจุดเชื่อม (Gusset plate) ให้น้อยที่สุดจึงทำให้ได้งานที่มีความเรียบเนียน ซึ่งเป็นการขึ้นรูปที่ทำให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม
โช๊คอัพหน้าแบบ Telescopic ซึ่งแกนโช๊คมีขนาด φ41มม. และมีความคงทนสูงนั้นมีความสามารถในการยึดเกาะพื้นถนนสูง ส่วน Twin rear shock นั้นมีกลไกในการปรับ Spring preload ทำให้สัมผัสได้ถึงความเรียบในขณะขับขี่
ด้วยความใส่ใจในการสร้างรูปทรงแบบคลาสสิคไปพร้อมกับการนำเทคนิคสมัยใหม่มาใช้กับหลายๆจุด เช่น การทำสีและปรับสภาพพื้นผิว ทำให้ตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของรถปรากฏขึ้นมา นอกจากนี้ดีไซน์ของ MEGURO K3 ยังคำนึงถึงมุมมองของไบค์เกอร์ จึงได้มีการออกแบบให้ผู้ขับขี่รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ขับขี่แบรนด์เมะกุโระอีกด้วย เมื่อกำแฮนด์แล้วลดสายตาลงมองก็จะเห็นโลโก้ “เมะกุโระ” สีสันสดใสบนหน้าปัดเรือนไมล์ และถังน้ำมันที่ทำสีแบบ Spray chroming ทำให้เกิดภาพสะท้อนของท้องฟ้าบนตัวถังอีกด้วย
ที่ด้านข้างของถังน้ำมันจะมีป้าย Original emblem ที่ถูกทำขึ้นมาอย่างใส่ใจติดอยู่ โดยมีต้นแบบมาจาก Meguro works โดยป้าย Emblem นี้ทำจากอลูมิเนียมขึ้นรูปให้มีความนูน จากนั้นช่างฝีมีอที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานจะเป็นผู้ลงสีทั้งหมด 5สีทีละอัน ๆ ถือเป็นการใช้วีธีลงสีที่มีขั้นตอนเยอะมาก แต่นั่นก็เพราะเราให้ความสำคัญกับงานที่มีคุณลักษณะละเอียดอ่อน รวมถึงความรู้สึกแบบเรโทรให้เหมือนกับสมัยของ Meguro Manufacturing
สำหรับเบาะที่นั่งนั้น ได้เลิกใช้เบาะ Tuck Roll ที่เคยใช้ในรุ่น W800 จากนั้นทำขอบ Piping รอบ ๆ เพื่อทำให้เป็นสไตล์คลาสสิคยิ่งขึ้น และเนื่องจากวัสดุที่ใช้ทำเบาะให้ผิวสัมผัสเรียบลื่นจึงทำให้นั่งสบาย นอกจากนี้ ยังได้พิมพ์โลโก้ “Kawasaki” สีเงินไว้ที่ท้ายเบาะอีกด้วย
เครื่องยนต์ที่มีความสวยงาม และมีความเฉพาะตัวด้วยกลุ่มเฟืองดอกจอกนั้นเป็นเครื่องยนต์ Air cooled 4 stroke SOHC 4 valve vertical twin ด้วยความพิเศษของเครื่องยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ซึ่งให้ความสำคัญกับช่วงความเร็วการหมุนระดับต่ำไปถึงกลาง จึงทำให้ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินไปกับตัวรถที่วิ่งได้อย่างดีและมีสมดุล
ด้วยการใช้ Double cradle frame ที่มี Backbone หน้าตัดทรงเหลี่ยมขนาด 50 มม. ซึ่งมีความทนทานนั้นทำให้เราสามารถออกแบบตัวรถที่กระทัดรัดขึ้นมาได้ ส่วนท่อทรงกลมที่เป็นส่วนประกอบนั้น ได้มีการวิเคราะห์ความคงทนที่จำเป็นในแต่ละจุด จากนั้นจึงปรับสมดุลความคงทนดังกล่าวให้เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ยังพยายามควบคุมให้มีจุดเชื่อม และแผ่นโลหะเสริมแรงบริเวณจุดเชื่อม (Gusset plate) ให้น้อยที่สุดจึงทำให้ได้งานที่มีความเรียบเนียน ซึ่งเป็นการขึ้นรูปที่ทำให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม
โช๊คอัพหน้าแบบ Telescopic ซึ่งแกนโช๊คมีขนาด φ41มม. และมีความคงทนสูงนั้นมีความสามารถในการยึดเกาะพื้นถนนสูง ส่วน Twin rear shock นั้นมีกลไกในการปรับ Spring preload ทำให้สัมผัสได้ถึงความเรียบในขณะขับขี่
| มิติรถ | |
|---|---|
| ความยาว | 2,190 mm |
| ความกว้าง | 925 mm |
| ความสูง | 1,130 mm |
| ระยะฐานล้อ | 1,465 mm |
| ระยะห่างจากพื้น | 125 mm |
| ความสูงเบาะนั่ง | 790 mm |
| น้ำหนักรวม | 227 kg |
| น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว) | - |
| ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 15 litres |
| สมรรถนะ | |
|---|---|
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุด | 38kW {52PS} / 6,500rpm |
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุดพร้อมแรมแอร์ | - |
| แรงบิดสูงสุด | 62N·m {6.3kgƒ·m} / 4,800rpm |
| เครื่องยนต์ | |
|---|---|
| ประเภทเครื่องยนต์ | 4-stroke Vertical Twin |
| ระบบหล่อเย็น | Air-cooled |
| ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก | 77.0 x 83.0 mm |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 773 cc |
| อัตราส่วนกำลังอัด | 8.4:1 |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | Fuel injection: ø34 mm x 2 with sub-throttle |
| ระบบหล่อลื่น | Forced lubrication, wet sump |
| ระบบสตาร์ท | Electric |
| ระบบจุดระเบิด | Digital |
| ระบบขับเคลื่อน | |
|---|---|
| ระบบขับเคลื่อน | Chain |
| ระบบส่งกำลัง | 5-speed, return |
| อัตราทดขั้นต้น | 2.095 (88/42) |
| อัตราทดเกียร์ 1 | 2.352 (40/17) |
| อัตราทดเกียร์ 2 | 1.590 (35/22) |
| อัตราทดเกียร์ 3 | 1.240 (31/25) |
| อัตราทดเกียร์ 4 | 1.000 (28/28) |
| อัตราทดเกียร์ 5 | 0.851 (23/27) |
| อัตราทดเกียร์ 6 | - |
| อัตราทดสุดท้าย | 2.466 (37/15) |
| ประเภทคลัตช์ (หลัก) | Wet, multi-disc, manual |
| ตัวถัง | |
|---|---|
| ประเภทเฟรม | Double Cradle, high-tensile steel |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | ø41 mm telescopic fork |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | Twin shocks with spring preload adjustability |
| ระยะยุบล้อหน้า | 130mm |
| ระยะยุบล้อหลัง | 107mm |
| มุมแคสเตอร์ | 27.0° |
| ระยะเทรล | 108mm |
| มุมเลี้ยว (ซ้าย/ขวา) | 37°/ 37° |
| ยางหน้า | 100/90-19M/C 57H |
| ยางหลัง | 130/80-18M/C 66H |
| เบรกหน้า | Single ø320 mm discs |
| คาลิปเปอร์ (หน้า) | Twin-piston |
| เบรกหลัง | Single ø270 mm disc, Twin-piston |
| คาลิปเปอร์ (หลัง) | Twin-piston |
