Ninja500 SE มาพร้อมกับรูปลักษณ์ตั้งแต่ช่วงหน้าที่โฉบเฉี่ยวในสไตล์รถแข่งตั้งแต่หัวจรดท้าย ตามแบบฉบับของตระกูลนินจา รวมถึงแฟริ่งข้างที่ตัดแต่งทรงมาเป็นอย่างดีเพื่อให้เข้ากับสรีระของผู้ขับขี่จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับตัวรถ พร้อมเทคโนโลยี KIPASS (Kawasaki Intelligent Proximity Activation Start System) ระบบกุญแจมาสเตอร์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปิดสวิตช์หลักและล๊อคคอได้จากระยะไกล เพียงพกพากุญแจรีโมทไว้ในกระเป๋า ระบบจะปลดล๊อคสวิตช์หลักให้อัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน อีกทั้งยังป้องกันการโจรกรรมได้อีกด้วย
และเครื่องยนต์พัฒนาใหม่ ขนาด 451 ซีซี ที่ให้พละกำลังในช่วงรอบต่ำถึงกลางได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ในย่านความเร็วสูงก็ทำความเร็วสูงสุดได้อย่างง่ายดาย และด้วยกำลังที่สมดุลและอัตราเร่งที่แข็งแกร่งตลอดทุกรอบเครื่องยนต์ ผสานเข้ากับแชสซีน้ำหนักเบาจึงเหมาะกับการขับขี่ในหลากหลายสถานการณ์รวมถึงในชีวิตประจำวัน เพราะคาวาซากิมุ่งหวังให้นักขับขี่เข้าถึงตัวรถได้ง่ายที่สุด เราจึงทุ่มเทให้กับการออกแบบแชสซี ที่นอกจากน้ำหนักที่เบาแล้ว ยังคล่องแคล่วและมีจุดศูนย์ถ่วงที่สมดุล ให้ความมั่นใจในการขับขี่แก่นักบิดมือใหม่และมือเก๋า
เครื่องยนต์ที่เพิ่มความจุขึ้นมาจากเดิม 52cc ช่วยเพิ่มพละกำลังที่มากกว่ารุ่น Ninja 400 ในทุกย่านแรงบิด โดยมาพร้อมกับ เพลาข้อเหวี่ยง,ก้านสูบ และค่ากำลังอัดที่ปรับแต่งมาใหม่ ประกอบกับลูกสูบอลูมิเนียม เพื่อรองรับความจุเครื่องยนต์ที่มากขึ้น กระบอกสูบแบบไร้ปลอกและเคลือบพื้นผิวเครื่องยนต์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่นเดียวกันกับในรุ่นซุปเปอร์สปอร์ตอย่าง Ninja ZX-10R และ Ninja ZX-6R
แรงม้า 52 PS @10,000 รอบต่อนาที
แรงบิด 42.6 N.m @7,500 รอบต่อนาที
Lightweight Frame จากพื้นฐานรถ 250 cc คือส่วนสำคัญที่ทำให้ Ninja 500 SE มีน้ำหนักเบาลงและควบคุมง่าย อีกทั้งยังมากับขนาดที่เพรียวบางขึ้น พร้อมเสริมความแข็งแรงและความทนทาน แชสซีสไตล์ซุปเปอร์สปอร์ต ระยะฐานล้อสั้น/สวิงอาร์มยาว โดดเด่นด้วยการปรับแต่งระยะเทรลอย่างเหมาะสม ส่งผลให้การควบคุมเป็นไปอย่างนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ
ท่าทางการขับขี่ของ Ninja 500 มอบความสะดวกสบายในการขับขี่ ด้วยตำแหน่งแฮนด์สูงและจุดวางพักเท้า ที่วางไว้ข้างหน้าเล็กน้อย ส่งผลให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย
เบาะนั่งเลือกใช้วัสดุแบบ Low-rebound urethane รูปทรงแบนเรียบ ช่วยมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและอ่อนโยน
Ninja500 SE มาพร้อมกับรูปลักษณ์ตั้งแต่ช่วงหน้าที่โฉบเฉี่ยวในสไตล์รถแข่งตั้งแต่หัวจรดท้าย ตามแบบฉบับของตระกูลนินจา รวมถึงแฟริ่งข้างที่ตัดแต่งทรงมาเป็นอย่างดีเพื่อให้เข้ากับสรีระของผู้ขับขี่จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับตัวรถ
หน้าจอ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว จอสีคุณภาพสูงที่ให้การมองเห็นได้อย่างชัดเจน ปรับตั้งสีพื้นหลังได้เอง และความสว่างหน้าจอปรับอัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อใช้ “RIDEOLOGY THE APP” (“ไร้ดิโอโลจี้ ดิ แอพ”) ที่ให้คุณได้สื่อสารกับตัวรถอย่างไร้สาย เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งกว่า
เครื่องยนต์ที่เพิ่มความจุขึ้นมาจากเดิม 52cc ช่วยเพิ่มพละกำลังที่มากกว่ารุ่น Ninja 400 ในทุกย่านแรงบิด โดยมาพร้อมกับ เพลาข้อเหวี่ยง,ก้านสูบ และค่ากำลังอัดที่ปรับแต่งมาใหม่ ประกอบกับลูกสูบอลูมิเนียม เพื่อรองรับความจุเครื่องยนต์ที่มากขึ้น กระบอกสูบแบบไร้ปลอกและเคลือบพื้นผิวเครื่องยนต์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่นเดียวกันกับในรุ่นซุปเปอร์สปอร์ตอย่าง Ninja ZX-10R และ Ninja ZX-6R
แรงม้า 52 PS @10,000 รอบต่อนาที
แรงบิด 42.6 N.m @7,500 รอบต่อนาที
Lightweight Frame จากพื้นฐานรถ 250 cc คือส่วนสำคัญที่ทำให้ Ninja 500 SE มีน้ำหนักเบาลงและควบคุมง่าย อีกทั้งยังมากับขนาดที่เพรียวบางขึ้น พร้อมเสริมความแข็งแรงและความทนทาน แชสซีสไตล์ซุปเปอร์สปอร์ต ระยะฐานล้อสั้น/สวิงอาร์มยาว โดดเด่นด้วยการปรับแต่งระยะเทรลอย่างเหมาะสม ส่งผลให้การควบคุมเป็นไปอย่างนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ
ท่าทางการขับขี่ของ Ninja 500 มอบความสะดวกสบายในการขับขี่ ด้วยตำแหน่งแฮนด์สูงและจุดวางพักเท้า ที่วางไว้ข้างหน้าเล็กน้อย ส่งผลให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย
เบาะนั่งเลือกใช้วัสดุแบบ Low-rebound urethane รูปทรงแบนเรียบ ช่วยมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและอ่อนโยน
Ninja500 SE มาพร้อมกับรูปลักษณ์ตั้งแต่ช่วงหน้าที่โฉบเฉี่ยวในสไตล์รถแข่งตั้งแต่หัวจรดท้าย ตามแบบฉบับของตระกูลนินจา รวมถึงแฟริ่งข้างที่ตัดแต่งทรงมาเป็นอย่างดีเพื่อให้เข้ากับสรีระของผู้ขับขี่จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับตัวรถ
หน้าจอ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว จอสีคุณภาพสูงที่ให้การมองเห็นได้อย่างชัดเจน ปรับตั้งสีพื้นหลังได้เอง และความสว่างหน้าจอปรับอัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อใช้ “RIDEOLOGY THE APP” (“ไร้ดิโอโลจี้ ดิ แอพ”) ที่ให้คุณได้สื่อสารกับตัวรถอย่างไร้สาย เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งกว่า
| มิติรถ | |
|---|---|
| ความยาว | 1,995 mm |
| ความกว้าง | 730 mm |
| ความสูง | 1,120 mm |
| ระยะฐานล้อ | 1,375 mm |
| ระยะห่างจากพื้น | 145 mm |
| ความสูงเบาะนั่ง | 785 mm |
| น้ำหนักรวม | 172 kg |
| น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว) | 158 kg |
| ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 14 litres |
| สมรรถนะ | |
|---|---|
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุด | 38.3 kW {52 PS} / 10,000 min-1 |
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุดพร้อมแรมแอร์ | - |
| แรงบิดสูงสุด | 42.6 N·m {4.3 kgƒ·m} / 6,000 min-1 |
| เครื่องยนต์ | |
|---|---|
| ประเภทเครื่องยนต์ | 4st, 2-cyl, DOHC, 4val |
| ระบบหล่อเย็น | Liquid-cooled |
| ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก | 70.0 x 58.6 mm |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 451 cm3 |
| อัตราส่วนกำลังอัด | 11.3 |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | Fuel injection (φ32 mm x 2) |
| ระบบหล่อลื่น | Forced Wet Sump |
| ระบบสตาร์ท | EL. Starter |
| ระบบจุดระเบิด | B&C (TCBI, B. P&EL. ADV. D.) |
| ระบบขับเคลื่อน | |
|---|---|
| ระบบขับเคลื่อน | Chain |
| ระบบส่งกำลัง | 6-speed, return |
| อัตราทดขั้นต้น | 2.029 (69/34) |
| อัตราทดเกียร์ 1 | 2.929 (41/14) |
| อัตราทดเกียร์ 2 | 2.056 (37/18) |
| อัตราทดเกียร์ 3 | 1.619 (34/21) |
| อัตราทดเกียร์ 4 | 1.333 (32/24) |
| อัตราทดเกียร์ 5 | 1.154 (30/26) |
| อัตราทดเกียร์ 6 | 1.037 (28/27) |
| อัตราทดสุดท้าย | 3.071 (43/14) |
| ประเภทคลัตช์ (หลัก) | Wet, multi-disc |
| ตัวถัง | |
|---|---|
| ประเภทเฟรม | Trellis, high-tensile steel |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | Telescopic fork |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | Swingarm |
| ระยะยุบล้อหน้า | 120 mm |
| ระยะยุบล้อหลัง | 130 mm |
| มุมแคสเตอร์ | 24.5° |
| ระยะเทรล | 92 mm |
| มุมเลี้ยว (ซ้าย/ขวา) | 35° / 35° |
| ยางหน้า | 110/70R17 M/C 54H |
| ยางหลัง | 150/60R17 M/C 66H |
| เบรกหน้า | Single disc 286 mm |
| คาลิปเปอร์ (หน้า) | - |
| เบรกหลัง | Single disc 193 mm |
| คาลิปเปอร์ (หลัง) | - |
