ถูกผลิตมาสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหาความสนุกบนทางฝุ่น เส้นทางธรรมชาติหรือทะเลทรายโดยเฉพาะ KLX230R ใหม่จากคาวาซากิมาพร้อมเครื่องยนต์และเฟรมที่ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงการขับขี่แบบออฟโรดเป็นอันดับแรก ด้วยขุมพลังบล็อกใหม่แบบ All-new ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 233 ลบ.ซม. สูบเดี่ยว สี่จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่ส่งมอบแรงบิดอันทรงพลังในรอบต่ำถึงกลาง และโครงสร้างภายในเครื่องยนต์ที่ไม่ซับซ้อนซึ่งเหมาะต่อการบุกตะลุยไปตามเส้นทางทรุกันดาร เฟรม Perimeter ใหม่แบบ All-new ถูกออกแบบมาให้มีเสถียรภาพด้านการควบคุมซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่มอบความมั่นใจให้แก่การขับขี่บนทางฝุ่น ขณะที่ความสูงใต้ท้องรถและช่วงชักของระบบกันสะเทือนถูกกำหนดมาให้เสริมประสิทธิภาพในการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ ข้อเสนอแนะจากนักทดสอบของคาวาซากิที่ช่วยให้เครื่องยนต์และแซสซีออกมามีสมดุลที่มอบความสนุกให้แก่ผู้ขับขี่ได้ครอบคลุมเป็นวงกว้าง – โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นและผู้ที่มีทักษะปานกลาง สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกแรงบันดาลใจจากรถในตระกูล KX ถูกขับออกมาผ่านสรีระอันกะทัดรัดและสไตล์ที่ออกแบบมาโดยเน้นความดุดัน KLX230R ใหม่จึงมาพร้อมคุณสมบัติที่เหนือกว่าน้องชายสายดูอัลเพอร์โพสอย่าง KLX230 ซึ่งมีทั้งความเบา คล่องตัวและทรงพลัง เหมาะกับการเป็นคู่หูในอุดมคติสำหรับการผจญภัยบนทางฝุ่นร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว
KLX230R มาพร้อมเครื่องยนต์บล็อกใหม่แบบ All-new แรงบิดที่มาแบบนุ่มนวล ทรงพลัง ช่วยสร้างคุณลักษณะแบบ ควบคุม-ง่าย และให้อัตราเร่งไล่ระดับอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์มีขนาดกะทัดรัดเสริมให้ตัวรถสามารถควบคุมได้คล่องตัวและมีน้ำหนักเบา นอกจากนี้โครงสร้างภายในที่ไม่ซับซ้อนจากการระบายความร้อนด้วยอากาศยังทำให้ KLX230R เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานบนทางฝุ่นมากที่สุด
ถูกออกแบบและกำหนดมาเพื่อรองรับการขับขี่แบบออฟโรดตั้งแต่เริ่มต้น เฟรม Perimeter ที่ผลิตจากเหล็กรับแรงดึงสูงใหม่แบบ All-new หยิบยื่นเสถียรภาพในการควบคุมซึ่งถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับการขับขี่บนทางฝุ่น โดยมีข้อเสนอแนะจากนักทดสอบของคาวาซากิที่ช่วยให้เครื่องยนต์และแซสซีออกมามีสมดุล ทำให้ KLX230R กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่สามารถมอบความสนุกให้แก่ผู้ขับขี่ได้ครอบคลุมเป็นวงกว้าง
โช้คอัพเทเลสโคปิคขนาดแกน ø37 มม. คอยรองรับบริเวณด้านหน้าของตัวรถ มาพร้อมระยะช่วงชักที่ยาวถึง 250 มม. ช่วยเสริมสมรรถนะด้านการควบคุมแม้กระทั่งในทางขรุขระ บริเวณด้านหลังกระเดื่อง Uni Trak ที่ให้ระยะการเคลื่อนตัวเป็นแนวตั้งของล้อ 251 มม. ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเกาะถนนและซึมซับแรงกระแทก โช้คหลังเดี่ยวแก๊สสามารถปรับตั้งความตรึงของสปริงโช้ค (Preload) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งช่วงล่างให้เหมาะกับความต้องการและน้ำหนักตัวได้อย่างครบครัน
การออกแบบเครื่องยนต์ควบคู่ไปกับเฟรมทำให้วิศวกรสามารถกำหนดค่าและองศาต่างๆได้อย่างอิสระ เรื่องที่ได้รับการคำนึงถึงเป็นอย่างมากคือการพยายามทำให้ตัวเครื่องออกมามีความสูงน้อยที่สุด ซึ่งช่วยให้สามารถวางแนวของตัวเฟรมให้ออกมามีความเหมาะสมเพื่อสมดุลที่ดีระหว่างความแข็งแรงและการรักษาระดับความสูงของเบาะให้อยู่ในระนาบที่ต้องการ รวมถึงมีการกำหนดระยะฐานล้อมาให้สั้นและสัมพันธ์กันเพื่อให้ตัวรถมีสมรรถนะการควบคุมที่คล่องตัวและบังคับง่าย – คุณสมบัติอีกหนึ่งประการที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นขับขี่และผู้มีทักษะการขับขี่อยู่ในระดับปานกลาง
จานเบรกหน้าเส้นผ่านศูนย์กลาง ø240 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกสองลูกสูบที่ให้ประสิทธิภาพการชะลอความเร็วอันทรงพลัง ควบคุมและไล่น้ำหนักเบรกได้ง่าย เบรกหลัง ใช้คาลิปเปอร์เบรกลูกสูบเดี่ยวคู่กับจานดิสก์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ø220 มม. ปั๊มเบรกบนสไตล์ KX พร้อมกระบุกน้ำมันเบรกช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ
KLX230R มาพร้อมเครื่องยนต์บล็อกใหม่แบบ All-new แรงบิดที่มาแบบนุ่มนวล ทรงพลัง ช่วยสร้างคุณลักษณะแบบ ควบคุม-ง่าย และให้อัตราเร่งไล่ระดับอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์มีขนาดกะทัดรัดเสริมให้ตัวรถสามารถควบคุมได้คล่องตัวและมีน้ำหนักเบา นอกจากนี้โครงสร้างภายในที่ไม่ซับซ้อนจากการระบายความร้อนด้วยอากาศยังทำให้ KLX230R เป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานบนทางฝุ่นมากที่สุด
ถูกออกแบบและกำหนดมาเพื่อรองรับการขับขี่แบบออฟโรดตั้งแต่เริ่มต้น เฟรม Perimeter ที่ผลิตจากเหล็กรับแรงดึงสูงใหม่แบบ All-new หยิบยื่นเสถียรภาพในการควบคุมซึ่งถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับการขับขี่บนทางฝุ่น โดยมีข้อเสนอแนะจากนักทดสอบของคาวาซากิที่ช่วยให้เครื่องยนต์และแซสซีออกมามีสมดุล ทำให้ KLX230R กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่สามารถมอบความสนุกให้แก่ผู้ขับขี่ได้ครอบคลุมเป็นวงกว้าง
โช้คอัพเทเลสโคปิคขนาดแกน ø37 มม. คอยรองรับบริเวณด้านหน้าของตัวรถ มาพร้อมระยะช่วงชักที่ยาวถึง 250 มม. ช่วยเสริมสมรรถนะด้านการควบคุมแม้กระทั่งในทางขรุขระ บริเวณด้านหลังกระเดื่อง Uni Trak ที่ให้ระยะการเคลื่อนตัวเป็นแนวตั้งของล้อ 251 มม. ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการเกาะถนนและซึมซับแรงกระแทก โช้คหลังเดี่ยวแก๊สสามารถปรับตั้งความตรึงของสปริงโช้ค (Preload) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งช่วงล่างให้เหมาะกับความต้องการและน้ำหนักตัวได้อย่างครบครัน
การออกแบบเครื่องยนต์ควบคู่ไปกับเฟรมทำให้วิศวกรสามารถกำหนดค่าและองศาต่างๆได้อย่างอิสระ เรื่องที่ได้รับการคำนึงถึงเป็นอย่างมากคือการพยายามทำให้ตัวเครื่องออกมามีความสูงน้อยที่สุด ซึ่งช่วยให้สามารถวางแนวของตัวเฟรมให้ออกมามีความเหมาะสมเพื่อสมดุลที่ดีระหว่างความแข็งแรงและการรักษาระดับความสูงของเบาะให้อยู่ในระนาบที่ต้องการ รวมถึงมีการกำหนดระยะฐานล้อมาให้สั้นและสัมพันธ์กันเพื่อให้ตัวรถมีสมรรถนะการควบคุมที่คล่องตัวและบังคับง่าย – คุณสมบัติอีกหนึ่งประการที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นขับขี่และผู้มีทักษะการขับขี่อยู่ในระดับปานกลาง
จานเบรกหน้าเส้นผ่านศูนย์กลาง ø240 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกสองลูกสูบที่ให้ประสิทธิภาพการชะลอความเร็วอันทรงพลัง ควบคุมและไล่น้ำหนักเบรกได้ง่าย เบรกหลัง ใช้คาลิปเปอร์เบรกลูกสูบเดี่ยวคู่กับจานดิสก์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ø220 มม. ปั๊มเบรกบนสไตล์ KX พร้อมกระบุกน้ำมันเบรกช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ
| มิติรถ | |
|---|---|
| ความยาว | 2,045 mm |
| ความกว้าง | 840 mm |
| ความสูง | 1,200 mm |
| ระยะฐานล้อ | 1,360 mm |
| ระยะห่างจากพื้น | 300 mm |
| ความสูงเบาะนั่ง | 925 mm |
| น้ำหนักรวม | 115 kg |
| น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว) | - |
| ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 6.6 litres |
| สมรรถนะ | |
|---|---|
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุด | 14.6 kW {20 PS} / 8,000 min-1 |
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุดพร้อมแรมแอร์ | - |
| แรงบิดสูงสุด | 20.6 N·m {2.1 kgƒ·m} / 6,000 min-1 |
| เครื่องยนต์ | |
|---|---|
| ประเภทเครื่องยนต์ | 4-stroke Single |
| ระบบหล่อเย็น | Air-cooled, |
| ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก | 67.0 x 66.0 mm |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 233 cc. |
| อัตราส่วนกำลังอัด | 9.4:1 |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | Fuel injection (ø32 x 1) |
| ระบบหล่อลื่น | Forced Lub. Wet |
| ระบบสตาร์ท | EL. Starter |
| ระบบจุดระเบิด | Digital |
| ระบบขับเคลื่อน | |
|---|---|
| ระบบขับเคลื่อน | Chain |
| ระบบส่งกำลัง | 6-speed, return |
| อัตราทดขั้นต้น | 2.871 (89/31) |
| อัตราทดเกียร์ 1 | 3.000 (39/13) |
| อัตราทดเกียร์ 2 | 2.067 (31/15) |
| อัตราทดเกียร์ 3 | 1.556 (28/18) |
| อัตราทดเกียร์ 4 | 1.261 (29/23) |
| อัตราทดเกียร์ 5 | 1.040 (26/25) |
| อัตราทดเกียร์ 6 | 0.852 (23/27) |
| อัตราทดสุดท้าย | 3.538 (46/13) |
| ประเภทคลัตช์ (หลัก) | Wet, multi-disc |
| ตัวถัง | |
|---|---|
| ประเภทเฟรม | Perimeter, high-tensile steel |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | ø37 mm telescopic fork |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | New Uni Trak with adjustable preload |
| ระยะยุบล้อหน้า | 250 mm |
| ระยะยุบล้อหลัง | 251 mm |
| มุมแคสเตอร์ | 26.5o |
| ระยะเทรล | 113 mm |
| มุมเลี้ยว (ซ้าย/ขวา) | 45° / 45° |
| ยางหน้า | 80/100-21 51M |
| ยางหลัง | 100/100-18 59M |
| เบรกหน้า | Single ø240 mm petal disc |
| คาลิปเปอร์ (หน้า) | Twin-piston |
| เบรกหลัง | Single ø220 mm petal disc |
| คาลิปเปอร์ (หลัง) | Single-piston |
