เพื่อให้เข้ากับสมรรถนะที่เร้าใจ ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น Z400 จึงมาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่แบบเฉียบคม ดุดัน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์ Sugomi ของรถรุ่นเรือธงในตระกูล Z จึงออกมาเป็นดีไซน์ใหม่ทั้งคันแบบ All-new ที่ผสมผสานไว้ด้วยกลิ่นอายของ Z650 และ Z300/250 สื่อให้เห็นถึงความคล่องแคล่ว ดุดันและแข็งแรงทรงพลัง
ไม่ว่าจะขี่ลัดเลาะผ่านป่าคอนกรีตอย่างช่ำชองหรือจอดอยู่หัวมุมของถนน รถซูเปอร์เน็คเก็ตน้ำหนักเบา ทรงพลังย่อมสามารถสะกดทุกสายตาของผู้ที่พบเห็นได้อย่างแน่นอน
ปริมาตรกระบอกสูบ 399 ลบ.ซม เครื่องยนต์ใหม่ส่งผ่านสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับโมเดลเก่า: 33.4 กิโลวัตต์ สำหรับ Z400 ใหม่ (มากกว่า Z300 รุ่นปี 2018 ถึง +4.4 กิโลวัตต์ สมรรถนะที่สูงขึ้นโดยรวมแล้วมาจากท่อดักอากาศแบบดูดลงด้านล่าง(ดาวน์ดราฟต์) ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับหม้อกรองที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจึงเพิ่มประสิทธิภาพในการนำอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ สมรรถนะที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวยังเสริมให้ตัวรถมีคาแรคเตอร์การส่งกำลังที่เป็นมิตรมากยิ่งขึ้น; การตอบสนองที่นิ่มนวลไร้การสะดุดและแรงบิดที่เพิ่มขึ้นมากในรอบต่ำทำให้การควบคุมหรือใช้คันเร่งสามารถทำได้ง่ายทั้งกับผู้เริ่มต้นและผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์
เนื่องจากทั้งเครื่องยนต์และเฟรมเป็นของใหม่ วิศวกรจึงสามารถเลือกจุดในการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ให้มีความเหมาะสมมากที่สุดได้ เครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้มีขนาดเท่ากับเครื่องของ Z250 รุ่นปี 2013- 2018 – เครื่องยนต์ใหม่ของ Z400 มีขนาดเกือบเท่ากับเครื่องยนต์ของ Z250 รุ่นปี 2019 ตลอดจนมีการลดน้ำหนักในหลายส่วนลงเพื่อให้ตัวเครื่องเบาที่สุดถึงปริมาตรกระบอกสูบจะเพิ่มขึ้นก็ตาม (ในกรณีของ Z400) การออกแบบใหม่ดังกล่าวยังช่วยให้สามารถตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปได้ รวมถึงปรับปรุงโครงสร้างใหม่เพื่อให้เครื่องยนต์มีความกระชับ มีขนาดเล็กและมีระบบระบายความร้อนที่มีการเดินท่อด้านนอกน้อยที่สุด
Z400 เลือกใช้เฟรมถักที่มีรูปทรงการออกแบบคล้ายคลึงกับ Ninja H2 คาวาซากินำระบบวิเคราะห์ความแข็งแรงและคงตัวเชิงพลวัตขั้นสูงมากใช้เพื่อให้ตัวเฟรมมีสัดส่วนความคงตัวสูง ทนต่อแรงบิดและน้ำหนักเบามากที่สุด เครื่องยนต์ถูกยึดไว้ภายในเฟรมอย่างมั่นคงและถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของเฟรม (Stressed member) ในการรองรับแรงบิดและแรงกระทำต่างๆ เฟรมที่ได้รับการออกแบบใหม่นี้มีส่วนสำคัญมากต่อน้ำหนักที่เบาลงของตัวรถ
โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิคขนาด ø41 มม. เพิ่มศักยภาพในการซับแรงตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดีขึ้นเสริมความมั่นคงในการยึดเกาะถนนให้แก่ล้อหน้าช่วยให้การหักเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางเป็นเรื่องง่าย(แม้กระทั่งตอนที่รถอยู่ในตำแหน่งตั้งตรง – ช่วยให้ลัดเลาะผ่านการจราจรได้คล่องตัวขึ้นบนท้องถนน) ควบคุมช่วงยุบและรองรับการถ่ายเทน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกับระบบกันสะเทือนของรถที่มีปริมาตรกระบอกสูบสูงกว่า
ขนาด ø310 มม. (ขนาดเดียวกับที่ใช้ใน Z1000) แบบ Semi-floating กึ่งให้ตัวใน Z400 ให้กำลังแรงเบรกที่เต็มสมรรถนะ ผ้าเบรกจับหน้าสัมผัสได้เต็มที่ แม่ปั๊มเบรกบนใหม่ช่วยให้ควบคุมเบรกได้ดีขึ้น เบรกทำงานไวกว่าเดิม ขณะที่สายเบรกซึ่งมีการคำนวณขนาดและเลือกใช้วัสดุมาเป็นอย่างดีช่วยลดการสูญเสียแรงดันเบรกให้สัมผัสเบรกมั่นคงต่อเนื่องทั้งยังมาพร้อมระบบเบรก ABS รุ่นล่าสุดจาก Nissin ซึ่งมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา
Z400 มาพร้อมเรือนไมล์และสวิตช์แบบเดียวกับ Ninja 650 ตัวเรือนไมล์ถูกจัดวางข้อมูลมาให้อ่านง่าย มาตราวัดความเร็วรอบแบบเข็มมาพร้อมไฟบอกตำแหน่งเกียร์บริเวณตรงกลางและอยู่ด้านบนของจอ LCD มัลติฟังก์ชั่น
ระบบคลัตช์มีขนาดเล็กลง (ø139 มม.>> ø125 มม.)แผ่นคลัตช์ได้รับการปรับปรุงใหม่ทำให้ก้านคลัตช์บีบง่ายขึ้นกว่าเดิมอีก 20% เมื่อก้านคลัตช์ใช้งานได้ง่ายขึ้นทำให้ระบบคลัตช์ใหม่มีระยะการทำงานที่กว้างกว่าเดิมควบคุม รวมถึงตัดและต่อกำลังได้ง่ายขึ้น
ปริมาตรกระบอกสูบ 399 ลบ.ซม เครื่องยนต์ใหม่ส่งผ่านสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับโมเดลเก่า: 33.4 กิโลวัตต์ สำหรับ Z400 ใหม่ (มากกว่า Z300 รุ่นปี 2018 ถึง +4.4 กิโลวัตต์ สมรรถนะที่สูงขึ้นโดยรวมแล้วมาจากท่อดักอากาศแบบดูดลงด้านล่าง(ดาวน์ดราฟต์) ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับหม้อกรองที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจึงเพิ่มประสิทธิภาพในการนำอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ สมรรถนะที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวยังเสริมให้ตัวรถมีคาแรคเตอร์การส่งกำลังที่เป็นมิตรมากยิ่งขึ้น; การตอบสนองที่นิ่มนวลไร้การสะดุดและแรงบิดที่เพิ่มขึ้นมากในรอบต่ำทำให้การควบคุมหรือใช้คันเร่งสามารถทำได้ง่ายทั้งกับผู้เริ่มต้นและผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์
เนื่องจากทั้งเครื่องยนต์และเฟรมเป็นของใหม่ วิศวกรจึงสามารถเลือกจุดในการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ให้มีความเหมาะสมมากที่สุดได้ เครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้มีขนาดเท่ากับเครื่องของ Z250 รุ่นปี 2013- 2018 – เครื่องยนต์ใหม่ของ Z400 มีขนาดเกือบเท่ากับเครื่องยนต์ของ Z250 รุ่นปี 2019 ตลอดจนมีการลดน้ำหนักในหลายส่วนลงเพื่อให้ตัวเครื่องเบาที่สุดถึงปริมาตรกระบอกสูบจะเพิ่มขึ้นก็ตาม (ในกรณีของ Z400) การออกแบบใหม่ดังกล่าวยังช่วยให้สามารถตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปได้ รวมถึงปรับปรุงโครงสร้างใหม่เพื่อให้เครื่องยนต์มีความกระชับ มีขนาดเล็กและมีระบบระบายความร้อนที่มีการเดินท่อด้านนอกน้อยที่สุด
Z400 เลือกใช้เฟรมถักที่มีรูปทรงการออกแบบคล้ายคลึงกับ Ninja H2 คาวาซากินำระบบวิเคราะห์ความแข็งแรงและคงตัวเชิงพลวัตขั้นสูงมากใช้เพื่อให้ตัวเฟรมมีสัดส่วนความคงตัวสูง ทนต่อแรงบิดและน้ำหนักเบามากที่สุด เครื่องยนต์ถูกยึดไว้ภายในเฟรมอย่างมั่นคงและถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของเฟรม (Stressed member) ในการรองรับแรงบิดและแรงกระทำต่างๆ เฟรมที่ได้รับการออกแบบใหม่นี้มีส่วนสำคัญมากต่อน้ำหนักที่เบาลงของตัวรถ
โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิคขนาด ø41 มม. เพิ่มศักยภาพในการซับแรงตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดีขึ้นเสริมความมั่นคงในการยึดเกาะถนนให้แก่ล้อหน้าช่วยให้การหักเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางเป็นเรื่องง่าย(แม้กระทั่งตอนที่รถอยู่ในตำแหน่งตั้งตรง – ช่วยให้ลัดเลาะผ่านการจราจรได้คล่องตัวขึ้นบนท้องถนน) ควบคุมช่วงยุบและรองรับการถ่ายเทน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกับระบบกันสะเทือนของรถที่มีปริมาตรกระบอกสูบสูงกว่า
ขนาด ø310 มม. (ขนาดเดียวกับที่ใช้ใน Z1000) แบบ Semi-floating กึ่งให้ตัวใน Z400 ให้กำลังแรงเบรกที่เต็มสมรรถนะ ผ้าเบรกจับหน้าสัมผัสได้เต็มที่ แม่ปั๊มเบรกบนใหม่ช่วยให้ควบคุมเบรกได้ดีขึ้น เบรกทำงานไวกว่าเดิม ขณะที่สายเบรกซึ่งมีการคำนวณขนาดและเลือกใช้วัสดุมาเป็นอย่างดีช่วยลดการสูญเสียแรงดันเบรกให้สัมผัสเบรกมั่นคงต่อเนื่องทั้งยังมาพร้อมระบบเบรก ABS รุ่นล่าสุดจาก Nissin ซึ่งมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา
Z400 มาพร้อมเรือนไมล์และสวิตช์แบบเดียวกับ Ninja 650 ตัวเรือนไมล์ถูกจัดวางข้อมูลมาให้อ่านง่าย มาตราวัดความเร็วรอบแบบเข็มมาพร้อมไฟบอกตำแหน่งเกียร์บริเวณตรงกลางและอยู่ด้านบนของจอ LCD มัลติฟังก์ชั่น
ระบบคลัตช์มีขนาดเล็กลง (ø139 มม.>> ø125 มม.)แผ่นคลัตช์ได้รับการปรับปรุงใหม่ทำให้ก้านคลัตช์บีบง่ายขึ้นกว่าเดิมอีก 20% เมื่อก้านคลัตช์ใช้งานได้ง่ายขึ้นทำให้ระบบคลัตช์ใหม่มีระยะการทำงานที่กว้างกว่าเดิมควบคุม รวมถึงตัดและต่อกำลังได้ง่ายขึ้น
| มิติรถ | |
|---|---|
| ความยาว | 1,990 mm |
| ความกว้าง | 800 mm |
| ความสูง | 1,055 mm |
| ระยะฐานล้อ | 1,370 mm |
| ระยะห่างจากพื้น | 145 mm |
| ความสูงเบาะนั่ง | 785 mm |
| น้ำหนักรวม | 167 kg |
| น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว) | - |
| ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 14 litres |
| สมรรถนะ | |
|---|---|
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุด | 33.4 kW {45 PS} / 10,000 min-1 |
| กำลังเครื่องยนต์สูงสุดพร้อมแรมแอร์ | - |
| แรงบิดสูงสุด | 38.0 N·m {3.9 kgƒ·m} / 8,000 min-1 |
| เครื่องยนต์ | |
|---|---|
| ประเภทเครื่องยนต์ | 4-stroke, Parallel Twin |
| ระบบหล่อเย็น | Liquid-cooled |
| ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก | 70.0 x 51.8 mm |
| ปริมาตรกระบอกสูบ | 399 cc |
| อัตราส่วนกำลังอัด | 11.5:1 |
| ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | Fuel injection: ø32 mm x 2 |
| ระบบหล่อลื่น | Forced Wet Sump |
| ระบบสตาร์ท | EL. Starter |
| ระบบจุดระเบิด | Battery and coil |
| ระบบขับเคลื่อน | |
|---|---|
| ระบบขับเคลื่อน | Chain |
| ระบบส่งกำลัง | 6-speed, return shift |
| อัตราทดขั้นต้น | 2.219 (71/32) |
| อัตราทดเกียร์ 1 | 2.929 (41/14) |
| อัตราทดเกียร์ 2 | 2.056 (37/18) |
| อัตราทดเกียร์ 3 | 1.619 (34/21) |
| อัตราทดเกียร์ 4 | 1.333 (32/24) |
| อัตราทดเกียร์ 5 | 1.154 (30/26) |
| อัตราทดเกียร์ 6 | 1.037 (28/27) |
| อัตราทดสุดท้าย | 2.929 (41/14) |
| ประเภทคลัตช์ (หลัก) | Wet, multi-disc |
| ตัวถัง | |
|---|---|
| ประเภทเฟรม | Trellis, high-tensile steel |
| ระบบกันสะเทือนหน้า | ø41mm telescopic fork |
| ระบบกันสะเทือนหลัง | Bottom-Link Uni-Trak, gas-charged shock with adjustable preload |
| ระยะยุบล้อหน้า | 120 mm |
| ระยะยุบล้อหลัง | 130 mm |
| มุมแคสเตอร์ | 24.5° |
| ระยะเทรล | 92 mm |
| มุมเลี้ยว (ซ้าย/ขวา) | 35° / 35° |
| ยางหน้า | 110/70R17M/C 54H |
| ยางหลัง | 150/60R17M/C 66H |
| เบรกหน้า | Single semi-floating 310 mm petal discs. |
| คาลิปเปอร์ (หน้า) | Single balanced actuation dual piston |
| เบรกหลัง | Single 220 mm petal disc. |
| คาลิปเปอร์ (หลัง) | Dual-piston |
