การพัฒนาควาซากิ รุ่น Ninja H2 เกิดจากความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้บรรดานักบิด ด้วยเชื่อว่าการขับขี่สุดพิเศษที่แท้จริงไม่ใช่เพียงการยกระดับสมรรถนะของรถจากรุ่นก่อนๆ เท่านั้น หากแต่เป็นออกแบบสุดยอดมอเตอร์ไซค์ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยสุดยอดมอเตอร์ไซค์ที่ว่านั้นต้องมีอัตราเร่งความเร็วที่แรงถึงใจ มีความเร็วสูงสุดที่เหนือกว่า พร้อมทั้งมีสมรรถนะเทียบชั้นรถแข่งระดับซูเปอร์สปอร์ต เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้บรรดาบริษัทในเครือของ Kawasaki Heavy Industries(KHI) Group จึงมารวมตัวและร่วมมือกันสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์เพื่อนักบิดที่ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยขึ้นว่าเกิดในประวัติศาสตร์ความร่วมมือของบริษัทชั้นนำระดับนานาชาติเช่นนี้
Ninja H2 เป็นการผสมผสานรูปลักษณ์ที่โดดเด่นตามคอนเซ็ปต์ “Intense Force Design” เน้นรูปลักษณ์ที่ทันสมัยทั้งยังเปี่ยมด้วยสมรรถนะขั้นสุดยอด อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เป็นเพียงการแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูดีเท่านั้น ความงามของ Ninja H2 ยังคงสะท้อนผ่านการทำงานในทุกส่วนประกอบ ตั้งแต่โครงสร้างรถที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่เมื่อต้องใช้ความเร็วสูง เทคโนโลยีล่าสุดที่ติดตั้งมาพร้อมกับรุ่นนี้จะช่วยดูดอากาศเข้าสู่ซูเปอร์ชาร์เจอร์ได้มากขึ้น เรียกได้ว่า Ninja H2 เหนือกว่ามอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นที่คาวาซากิเคยสร้างมา ทั้งยังเป็นศิลปกรรมแห่งยานยนต์ชิ้นเอกที่โดดเด่นทั้งเรื่องสมรรถนะและดีไซน์ ดูเข้มขรึมในสีดำเงางามด้วยเทคนิคการทำสีที่พัฒนามาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ
เครื่องยนต์ของ Ninja H2 เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบที่มีขนาด 998 cc ระบายความร้อนด้วยน้ำที่ถูกออกแบบใหม่ให้มีการติดตั้งระบบอัดอากาศ (Supercharge) เครื่องยนต์มีขนาดเล็กเท่ากับเครื่องยนต์ Super sportและติดตั้ง Supercharge ให้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องยนต์
200 PS @ 10,000 rpm
210 PS @ 10,000 rpm with Ram Air
140.4 N.m @ 10,000 rpm
เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีการติดตั้ง Supercharge ที่ถูกสร้างขึ้นโดย KHI Group โดยประกอบไปด้วย
–Aerospace Company
–Gas Turbine & Machinery Company
–Corporate Technology Division
Supercharge ถูกออกแบบโดย KHI group
–Centrifugal scroll – type SC (แบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง)
–ชุด Supercharge ผลิตขึ้นจากอลูมิเนียม นำหนักเบา
–ปริมาตรการดูดอากาศสูงสุด : มากกว่า 200 L/s
–ความเร็วในการดูดอากาศ : 100 m/s
–ใช้ระบบเฟืองแบบ Planetary สำหรับขับเคลื่อนใบพัด (Impeller)
–ใบพัด (Impeller) จะหมุนเป็นจำนวน 9.2x ของความเร็วของเพลาข้อเหวี่ยง นั่นคือรอบเครื่องประมาณ 12,000 rpm ใบพัดจะหมุนราวๆ 120,000 rpm
Ninja H2 ถูกพัฒนาให้มีสมรรถนะเทียบเคียงญาติผู้พี่ที่เป็นรถสำหรับสนามแข่งอย่าง Ninja H2R แต่ก็สามารถขับขี่ได้ตามท้องถนนทั่วไป ระบบช่วงล่างของ Ninja H2 ถูกออกแบบมาอย่างแข็งแรงไม่สะทกสะท้านต่อการทำความเร็วที่เพิ่มขึ้น เปิดโอกาสให้นักบิดได้สัมผัสกับสมรรถนะการทรงตัวที่นิ่งและนิ่มขณะเลี้ยว ตามปกติแล้ว การควบคุมการทรงตัวของรถในขณะที่ใช้ความเร็วสูงนั้นต้องอาศัยฐานล้อที่ยาวพอสมควร แต่ในรุ่นนี้ ทีมวิศวกรลับเลือกที่จะใช้ฐานล้อที่สั้นกว่าเพื่อสร้างชุดบังคับรถขนาดกะทัดรัดที่ทำให้การบังคับรถแม่นยำมากยิ่งขึ้น ขณะที่เฟรมรถนั้นไม่ได้ออกแบบมาให้มีความแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังสามารถรองรับสิ่งรบกวนภายนอกที่จะสร้างความเสียหายแก่ตัวถังได้เมื่อใช้ความเร็วสูง ส่วนตัวเฟรมรถเป็นแบบเฟรมถักที่แข็งแรง สามารถรองรับการทำงานของระบบซุปเปอร์ชาร์จได้เป็นอย่างดี และยังช่วยในการทรงตัวและสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ตัวรถเมื่อใช้ความเร็วสูงอีกด้วย
แม้ว่าจะมีสมรรถนะยอดเยี่ยมเทียบชั้นรถแข่งที่ต้องทำเวลาต่อรอบให้เร็วมากที่สุด แต่ Ninja H2 ก็สามารถมอบความสะดวกสบายในการขับขี่พอสมควร โดยตำแหน่งของเบาะนั่งนั้นได้รับการจัดวางอย่างพอเหมาะพอเจาะโดยคำนึงถึงความสบายของผู้ขี่เป็นอันดับแรก และยังถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับการบังคับรถอีกด้วย มุมมองการขับขี่ที่ได้จาก Ninja H2 อาจไม่น่าประทับใจอะไรนัก แต่สิ่งที่เหนือกว่าคือคุณภาพการขับขี่ และความทันสมัยของระบบบังคับการขี่ รวมทั้งความฟิตของเครื่องยนต์และรูปลักษณ์อันสง่างาม
ระบบรองรับน้ำหนักของ Ninja H2 เลือกใช้ KAYABA KYB AOS-II racing suspension ซึ่งเป็นระบบรองรับน้ำหนักที่มีพื้นฐานการพัฒนามาจากรถวิบาก โดยออกแบบแกนโช้คมีขนาด ø43 มาให้มีแรงเสียดทานระหว่างแกนโช้คและกระบอกโช้คที่ต่ำ แกนโช้คมีขนาด ø43 มม. และเคลือบด้วย DLC นี่เป็นครั้งแรกที่รถจักรยานยนต์ที่ใช้บนท้องถนนทั่วไปได้ติดตั้งระบบรองรับน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการแข่งขัน
ระบบรองรับน้ำหนักด้านหลังใช้ Öhlins TTX36 ซึ่งมอบประโยชน์มากมายให้ผู้ขับขี่
>> เพิ่มเสถียรภาพซึ่งทำให้เกิดประสิทธิภาพขณะเข้าโค้ง
>> ระบบกันสะเทือนที่นุ่มนวลถ่ายทอดความรู้สึกของการหน่วงที่ดีเยี่ยม และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และการควบคุมรถ
>> ให้ความรู้สึกมั่นคงเมื่อใช้ความเร็ว และเปลี่ยนเลนได้ง่ายขึ้นเมื่อขับขี่บนทางหลวง
>> ระบบรองรับน้ำหนักนุ่มนวลดูดซัพแรงกระแทกได้อย่างง่ายดายเพิ่มความสะดวกสะบายเมื่อขับขี่ในเมือง
การออกแบบหน้าจอให้มีความไฮเทคและล้ำสมัยมีส่วนช่วยให้ Ninja H2 เป็นรุ่นเรือธงของคาวาซากิ มาตรวัดรอบแบบอนาล็อกเสริมด้วยหน้าจอ TFT LCD สีคุณภาพสูงซึ่งช่วยให้สามารถแสดงข้อมูลเป็นกราฟิกได้ โหมดการแสดงผลที่เลือกได้สี่โหมดช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจัดลำดับความสำคัญของข้อมูลที่พวกเขาต้องการดู โดยขึ้นอยู่กับประเภทการขับขี่ที่พวกเขากำลังขับขี่ในขณะนั้น
ระบบฟังก์ชั่นช่วยควบคุมการเข้าโค้งของคาวาซากิ (KCMF) คือชุดควบคุมจัดการเครื่องและตัวถังโดยรวมการใช้ซอฟต์แวร์ล้ำสมัยรุ่นล่าสุดของคาวาซากิและข้อมูลป้อนกลับจากชุด IMU ของ Bosch ที่ให้ภาพที่แม่นยำชัดเจนกว่าเดิมแบบเรียลไทม์ของความโน้มเอียงของตัวถัง KCMF จะตรวจสอบตัวแปรต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์และตัวถังตลอดการเข้าโค้งตั้งแต่เข้าโค้งจนกระทั่งออกโค้ง ระบบนี้ช่วยยับยั้งแรงเบรกและกำลังเครื่องยนต์เพื่อให้การเร่งความเร็ว การเบรก และเร่งอีกครั้งส่งผ่านได้อย่างราบรื่น และยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าโค้งตามไลน์ที่ตั้งใจไว้ได้
IMU ช่วยให้สามารถตรวจสอบความเฉื่อยตาม 6 DOF (องศาอิสระ) ได้วัดอัตราเร่งตามแนวแกนตามยาว แกนตามขวาง และแกนแนวตั้ง รวมถึงอัตราการหมุนและอัตรา Pitch อัตรา Roll และ Yaw ที่คำนวณโดย ECU โดยใช้ซอฟต์แวร์ต้นฉบับของ Kawasaki ซึ่งช่วยทำให้ระบบต่างๆทำงานได้แม่นยำมากขึ้น
ระบบ KTRC ที่ใช้กับ Ninja H2 ผสมผสานองค์ประกอบที่ดีที่สุดของระบบควบคุมการยึดเกาะถนนรุ่นก่อนหน้าของคาวาซากิ Ninja H2 มอบเลเวลในการเลือกใช้ที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับสภาพการขับขี่และความชอบของผู้ขับขี่ และโหมดทั้งหมดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดการเอาต์พุตเมื่อเกิดการลื่นไถลกะทันหัน ระบบนี้นำเสนอทั้งสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ตที่ได้รับการปรับปรุงและมอบความอุ่นใจในการรับมือกับพื้นผิวถนนที่ลื่น โดยสามารถปรับได้ถึง 9 ระดับด้วยกัน
หน้าจอ TFT มี Built in Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของผู้ใช้รถโดยเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชั่น “RIDEOLOGY” ซึ่งมีฟังก์ชั่นดังนี้
- Vehicle Info: แสดงข้อมูลรถผ่านแอพในโทรศัพท์
- Riding Log: แสดงเส้นทางการขับขี่ของผู้ขับขี่
- Telephone Notice: เตือนผู้ขับขี่ว่ามีสายหรืออีเมลล์เข้า
- Tuning-General Setting: ตั้งค่าหน้าจอผ่านแอพพลิเคชั่น
มิติรถ | |
---|---|
ความยาว | 2,085 mm |
ความกว้าง | 770 mm |
ความสูง | 1,125 mm |
ระยะฐานล้อ | 1,445 mm |
ระยะห่างจากพื้น | 130 mm |
ความสูงเบาะนั่ง | 825 mm |
น้ำหนักรวม | 238 kg |
น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว) | - |
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 17 litres |
สมรรถนะ | |
---|---|
กำลังเครื่องยนต์สูงสุด | 147.2 kW {200 PS} / 10,000 min-1 |
กำลังเครื่องยนต์สูงสุดพร้อมแรมแอร์ | 154.5 kW {210 PS} / 10,000 min-1 |
แรงบิดสูงสุด | 140.4 N·m {14.3 kgƒ·m} / 10,000 min-1 |
เครื่องยนต์ | |
---|---|
ประเภทเครื่องยนต์ | 4-stroke In-Line Four |
ระบบหล่อเย็น | Liquid-cooled, |
ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก | 76.0 x 55.0 mm |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 998 cc |
อัตราส่วนกำลังอัด | 8.5:1 |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | Fuel injection: ø50 mm x 4 with dual injection ; Kawasaki Supercharger |
ระบบหล่อลื่น | Forced lubrication, Wet |
ระบบสตาร์ท | EL. Starter |
ระบบจุดระเบิด | Digital |
ระบบขับเคลื่อน | |
---|---|
ระบบขับเคลื่อน | Chain |
ระบบส่งกำลัง | 6-speed, return, dog-ring |
อัตราทดขั้นต้น | 1.551 (76/49) |
อัตราทดเกียร์ 1 | 3.188 (51/16) |
อัตราทดเกียร์ 2 | 2.526 (48/19) |
อัตราทดเกียร์ 3 | 2.045 (45/22) |
อัตราทดเกียร์ 4 | 1.727 (38/22) |
อัตราทดเกียร์ 5 | 1.524 (32/21) |
อัตราทดเกียร์ 6 | 1.348 (31/23) |
อัตราทดสุดท้าย | 2.444 (44/18) |
ประเภทคลัตช์ (หลัก) | Wet, multi-disc |
ตัวถัง | |
---|---|
ประเภทเฟรม | Trellis, high-tensile steel, with Swingarm Mounting Plate |
ระบบกันสะเทือนหน้า | ø43 mm inverted fork with rebound and compression damping and spring preload adjustability, and top-out springs |
ระบบกันสะเทือนหลัง | New Uni Trak, Öhlins TTX36 gas-charged shock with piggyback reservoir, compression and rebound damping and spring preload adjustability, and top-out spring |
ระยะยุบล้อหน้า | 120 mm |
ระยะยุบล้อหลัง | 135 mm |
มุมแคสเตอร์ | 24.5° |
ระยะเทรล | 103 mm |
มุมเลี้ยว (ซ้าย/ขวา) | 27° / 27° |
ยางหน้า | 120/70 ZR17 (58W) |
ยางหลัง | 200/55 ZR17 (78W) |
เบรกหน้า | Dual semi-floating ø330 mm Brembo discs, |
คาลิปเปอร์ (หน้า) | Dual radial-mount, Brembo Stylema monobloc, opposed 4-piston, KIBS ABS |
เบรกหลัง | Single ø250 mm disc, |
คาลิปเปอร์ (หลัง) | Brembo, opposed 2-piston, KIBS ABS |