การพัฒนาควาซากิ รุ่น Ninja H2 เกิดจากความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้บรรดานักบิด ด้วยเชื่อว่าการขับขี่สุดพิเศษที่แท้จริงไม่ใช่เพียงการยกระดับสมรรถนะของรถจากรุ่นก่อนๆ เท่านั้น หากแต่เป็นออกแบบสุดยอดมอเตอร์ไซค์ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยสุดยอดมอเตอร์ไซค์ที่ว่านั้นต้องมีอัตราเร่งความเร็วที่แรงถึงใจ มีความเร็วสูงสุดที่เหนือกว่า พร้อมทั้งมีสมรรถนะเทียบชั้นรถแข่งระดับซูเปอร์สปอร์ต เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้บรรดาบริษัทในเครือของ Kawasaki Heavy Industries(KHI) Group จึงมารวมตัวและร่วมมือกันสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์เพื่อนักบิดที่ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยขึ้นว่าเกิดในประวัติศาสตร์ความร่วมมือของบริษัทชั้นนำระดับนานาชาติเช่นนี้
Ninja H2 เป็นการผสมผสานรูปลักษณ์ที่โดดเด่นตามคอนเซ็ปต์ “Intense Force Design” เน้นรูปลักษณ์ที่ทันสมัยทั้งยังเปี่ยมด้วยสมรรถนะขั้นสุดยอด อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เป็นเพียงการแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดูดีเท่านั้น ความงามของ Ninja H2 ยังคงสะท้อนผ่านการทำงานในทุกส่วนประกอบ ตั้งแต่โครงสร้างรถที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่เมื่อต้องใช้ความเร็วสูง เทคโนโลยีล่าสุดที่ติดตั้งมาพร้อมกับรุ่นนี้จะช่วยดูดอากาศเข้าสู่ซูเปอร์ชาร์เจอร์ได้มากขึ้น เรียกได้ว่า Ninja H2 เหนือกว่ามอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นที่คาวาซากิเคยสร้างมา ทั้งยังเป็นศิลปกรรมแห่งยานยนต์ชิ้นเอกที่โดดเด่นทั้งเรื่องสมรรถนะและดีไซน์ ดูเข้มขรึมในสีดำเงางามด้วยเทคนิคการทำสีที่พัฒนามาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ
ระบบซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ หรือชุดอัดอากาศที่ใช้ใน Ninja H2 ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยทีมนักออกแบบเครื่องยนต์ของคาวาซากิ ภายใต้ความร่วมมือของบริษัทในเครือคาวาซากิ ได้แก่ Gas Turbine & Machinery Company, Aerospace Company, และ Corporate Technology Division นำมาซึ่งการออกแบบที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด จนกระทั่งได้ซุปเปอร์ชาร์จเจอร์เอกสิทธิ์เฉพาะคาวาซากิที่พัฒนามาเพื่อมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ และทำให้ Ninja H2 เร็วและแรงถึงขั้นสุดตามที่เหล่าวิศวกรต้องการ
Ninja H2 ถูกพัฒนาให้มีสมรรถนะเทียบเคียงญาติผู้พี่ที่เป็นรถสำหรับสนามแข่งอย่าง Ninja H2R แต่ก็สามารถขับขี่ได้ตามท้องถนนทั่วไป ระบบช่วงล่างของ Ninja H2 ถูกออกแบบมาอย่างแข็งแรงไม่สะทกสะท้านต่อการทำความเร็วที่เพิ่มขึ้น เปิดโอกาสให้นักบิดได้สัมผัสกับสมรรถนะการทรงตัวที่นิ่งและนิ่มขณะเลี้ยว ตามปกติแล้ว การควบคุมการทรงตัวของรถในขณะที่ใช้ความเร็วสูงนั้นต้องอาศัยฐานล้อที่ยาวพอสมควร แต่ในรุ่นนี้ ทีมวิศวกรลับเลือกที่จะใช้ฐานล้อที่สั้นกว่าเพื่อสร้างชุดบังคับรถขนาดกะทัดรัดที่ทำให้การบังคับรถแม่นยำมากยิ่งขึ้น ขณะที่เฟรมรถนั้นไม่ได้ออกแบบมาให้มีความแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังสามารถรองรับสิ่งรบกวนภายนอกที่จะสร้างความเสียหายแก่ตัวถังได้เมื่อใช้ความเร็วสูง ส่วนตัวเฟรมรถเป็นแบบเฟรมถักที่แข็งแรง สามารถรองรับการทำงานของระบบซุปเปอร์ชาร์จได้เป็นอย่างดี และยังช่วยในการทรงตัวและสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ตัวรถเมื่อใช้ความเร็วสูงอีกด้วย
แม้ว่าจะมีสมรรถนะยอดเยี่ยมเทียบชั้นรถแข่งที่ต้องทำเวลาต่อรอบให้เร็วมากที่สุด แต่ Ninja H2 ก็สามารถมอบความสะดวกสบายในการขับขี่พอสมควร โดยตำแหน่งของเบาะนั่งนั้นได้รับการจัดวางอย่างพอเหมาะพอเจาะโดยคำนึงถึงความสบายของผู้ขี่เป็นอันดับแรก และยังถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับการบังคับรถอีกด้วย มุมมองการขับขี่ที่ได้จาก Ninja H2 อาจไม่น่าประทับใจอะไรนัก แต่สิ่งที่เหนือกว่าคือคุณภาพการขับขี่ และความทันสมัยของระบบบังคับการขี่ รวมทั้งความฟิตของเครื่องยนต์และรูปลักษณ์อันสง่างาม
เครื่องยนต์ของ Ninja H2 เป็นแบบ 4 สูบแถวเรียง อาจดูคล้ายเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือเทคโนโลยีซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ ชุดอัดอากาศเทคโนโลยีล่าสุดที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับมอเตอร์ไซค์ โดยเป็นเอกสิทธิ์ของคาวาซากิ ทุกชิ้นส่วนถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถรองรับกับแรงดันอากาศที่มาจากซุปเปอร์ชาร์จเจอร์และกำลังเครื่องยนต์สูงสุดระดับ 300 แรงม้า ซึ่งเทียบเท่ากับรุ่น Ninja H2R โดยชุดเครื่องยนต์ของ Ninja H2 ถูกออกแบบมาให้ทนแรงดันได้มากกว่าเครื่องยนต์ที่ไม่มีระบบอัดอากาศถึง 1.5 ถึง 2 เท่าเลยทีเดียวที่จริงแล้ว หากไม่นับเพลาลูกเบี้ยว ปะเก็นฝาสูบ และคลัทช์แล้ว เครื่องยนต์ของ Ninja H2 ก็ถือว่าถอดบล็อกมาจากรถแข่งระดับตำนานรุ่น Ninja H2R แบบไม่ผิดเพี้ยน
มิติรถ | |
---|---|
ความยาว | |
ความกว้าง | |
ความสูง | |
ระยะฐานล้อ | |
ระยะห่างจากพื้น | |
ความสูงเบาะนั่ง | |
น้ำหนักรวม | |
น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว) | |
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง |
สมรรถนะ | |
---|---|
กำลังเครื่องยนต์สูงสุด | |
กำลังเครื่องยนต์สูงสุดพร้อมแรมแอร์ | |
แรงบิดสูงสุด |
เครื่องยนต์ | |
---|---|
ประเภทเครื่องยนต์ | |
ระบบหล่อเย็น | |
ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก | |
ปริมาตรกระบอกสูบ | |
อัตราส่วนกำลังอัด | |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | |
ระบบหล่อลื่น | |
ระบบสตาร์ท | |
ระบบจุดระเบิด |
ระบบขับเคลื่อน | |
---|---|
ระบบขับเคลื่อน | |
ระบบส่งกำลัง | |
อัตราทดขั้นต้น | |
อัตราทดเกียร์ 1 | |
อัตราทดเกียร์ 2 | |
อัตราทดเกียร์ 3 | |
อัตราทดเกียร์ 4 | |
อัตราทดเกียร์ 5 | |
อัตราทดเกียร์ 6 | |
อัตราทดสุดท้าย | |
ประเภทคลัตช์ (หลัก) |
ตัวถัง | |
---|---|
ประเภทเฟรม | |
ระบบกันสะเทือนหน้า | |
ระบบกันสะเทือนหลัง | |
ระยะยุบล้อหน้า | |
ระยะยุบล้อหลัง | |
มุมแคสเตอร์ | |
ระยะเทรล | |
มุมเลี้ยว (ซ้าย/ขวา) | |
ยางหน้า | |
ยางหลัง | |
เบรกหน้า | |
คาลิปเปอร์ (หน้า) | |
เบรกหลัง | |
คาลิปเปอร์ (หลัง) |